ปันผลยกเว้นVAT

"อยู่คนเดียวจงระวังความคิด

อยู่กับมิตรจงระวังคำพูด"

Passive Income เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินตัวจริงๆ หลังจากฟังอาจารย์พร่ำบ่น เรื่องการหาสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ให้เรา แม้ในยามหลับแม้ในยามตื่น ฟังแบบหลับหลับตื่นตื่นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ยิ่งพอได้ฟังว่าการสร้างสินทรัพย์หรือเครื่องมือที่สร้างรายได้ แบบ Passive Income ไม่ใช่เรื่องง่าย แบบว่าพอได้มาแล้ว ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้มันสร้างรายได้ด้วยตัวมันเอง

Passive Income ต้องแลกมาซึ่งการทำการบ้านอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่อง การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ใช่เพียงฟังว่าหุ้นตัวนี้จะขึ้น ตัวนั้นจะลง ชนแนวต้าน ต้องขายขาดทุนก็ต้อง cut loss ลงมาถึงแนวรับ มีบ้านขายบ้านมีรถขายรถ ทุ่มหมดหน้าตักได้เลย ต้องหาความรู้อย่างละเอียดว่า ภาวะเศรษฐกิจสังคมสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศ กระทบกับหุ้นที่เราสนใจหรือที่ซื้อไว้แล้วอย่างไรบ้าง จะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ทำเอาหวาดไปเลย กลัวว่าจะทำงานหนักกว่าเดิมเสียอีก แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลานมีเงินไว้ใช้กิน ใช้เที่ยวได้อย่างสบายใจ ก็จำเป็นต้องเดินหน้าทำตามแผน

เงินปันผล

หักภาษี ณ ที่จ่าย 10%

เลือกนำไปรวมหรือไม่นำไปรวมคำนวณภาษีได้

            เลือกหุ้นลงทุนก็เรื่องนึงเรื่องเสียภาษีก็เรื่องนึง อาจารย์เคยบอกเคยย้ำเตือน จนผมจำได้ขึ้นใจว่ากำไรจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ผ่านมาผมก็ใช้สิทธิ์ไปเรียบร้อย แม้จะหนักไปทางขาดทุนก็ไม่ว่ากัน ถือเป็นบทเรียนการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เพราะหุ้นหลายตัวที่เป็นหุ้นที่ดีมีสง่าราศี ก็สร้างผลตอบแทนให้ผมมาต่อเนื่องในรูปเงินปันผล แม้จะยังไม่ถึงขนาดนั่ง first class ไป paris ได้แต่ก็พอให้ชื่นใจได้บ้าง

เสียดาย แต่ไม่เคยเสียใจ แม้ทุกครั้งที่ได้รับเงินปันผลจะถูกเก็บส่วย เอ๊ย..เก็บค่าต๋ง แฮ่..เก็บค่าคุ้มครอง เอ๊ย..เก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายไป 10% แต่ก็สบายใจว่า ส่วนที่เหลือรับเข้าเป๋าตุงไป 90% ของเงินปันผลที่จ่าย แถมปลายปีค่อยมาตัดสินใจอีกทีว่า จะนำไปรวมกับเงินได้อื่น เพื่อคำนวณภาษีไหม ถ้านำไปรวมแล้วได้เงินภาษีคืนค่อยนำไปรวม ถ้านำไปรวมแล้วเสียภาษีเราก็ทำลืมมันไปบ้าง เรียกว่าเป็นนักลงทุนที่หล่อสมาร์ทใจดีกรุงเทพ แฮ่..หล่อเลือกได้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร อาจารย์มาเข้าทรง แฮ่..แวะมาบอกด้วยนะ จะได้ไม่พลาด

ที่มีปัญหาคาใจมาตลอดคือ ผมมีเงินได้จากการขายสินค้าออนไลน์ผ่านช่องทางอื่นด้วย แต่สบายใจได้ว่าไม่เคยเป็นแม่ทีมแม่ข่าย หรือบอสของใครทั้งนั้น รายได้ส่วนนี้ประมาณล้านกว่าบาทต่อปี พอได้รับเงินปันผลจากบริษัทที่ไปลงทุน หากนำมารวมกันจะทำให้รายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีแบบนี้ จะต้องไปจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไหม หากต้องจดจะได้นำเอาค่านายหน้า ที่หนูจ่ายให้โบรกเกอร์ทั้งหลาย มาขอคืนภาษีซื้อได้ไหม แอบเสียดายทุกครั้งที่เห็นยอดภาษีซื้อ จากค่านายหน้าที่จ่ายให้โบร๊ก

เงินปันผล กำไรจากการลงทุน

ไม่เป็นการขายสินค้า หรือให้บริการ

ไม่อยู่ในบังคับภาษีมูลค่าเพิ่ม

            บอกย้ำบอกซ้ำกันมาหลายรอบว่า แม้จะมีการขายสินค้าหรือให้บริการหลายอย่าง ที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะจดทะเบียนทันที หรือจดทะเบียนเมื่อรายได้เกิน 1.8  ล้านบาทต่อปี แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมด คุณสรรพ์ท่านก็กำหนดแยกแยะไว้อย่างชัดเจน อย่างเรื่องราวของการลงทุน เมื่อเราได้รับเงินปันผล หรือกำไรจากการลงทุนหรือขายหุ้น คุณสรรพ์ท่านเคยให้ความเห็นไว้อย่างน่าคิดน่าฟังว่า เงินปันผลและกำไรเป็นผลตอบแทนจากการที่เราไปลงทุน ไม่ได้เป็นผลตอบแทนที่ได้รับจากการขายสินค้า หรือบริการจึงไม่อยู่ในบังคับภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อไม่อยู่ในบังคับจึงไม่ต้อง นำมารวมกับเงินได้อื่นเพื่อคำนวณว่าเกิน 1.8 ล้านบาท ที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ ขอให้เฮียอย่ากังวล  ตั้งหน้าตั้งตาลงทุนรับเงินปันผลให้เปรมปรีด์ สะสมไว้นั่ง first class ไปปารีสจิบไวน์ ให้สบายใจได้ ส่วนเรื่องการนำเงินปันผลไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ จะได้ประโยชน์หรือไม่ หากมีโอกาสจะหยิบนำมาเล่าให้ฟัง ปะเหมาะเคราะห์ดีได้ภาษีที่ถูกหักไว้คืนจะได้เก็บเป็นกองทุนไปเที่ยว ต่อให้สบายใจ ไม่ต้องรอใครมาให้ตั่วเครื่องบินที่พักโดยเสน่หา