ขายเครื่องแบบ

"เหล็กที่ผ่านไฟย่อมแข็งแกร่ง

คมยิ่งกว่าเหล็กธรรมดา

ใจที่ผ่านอุปสรรคมา

กย่อมไม่หวั่นปัญหา

ไม่ว่าจะหนักเพียงใด"

            ติ๊ง ติ๊ง เป็นเสียงเมล์ที่ดังกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณลานสน ยิ่งในช่วงเวลามืดสนิท สายลม และเมฆหมอกที่ปลกคลุมแทบจะทุกพื้นที่ อากาศเย็นชวนให้ขดตัวตอนใต้ถุงนอนและเต็นท์ ที่ในยามนี้ให้ความอบอุ่นได้ไม่แพ้ที่นอนหลังละล้านของบอสทั้งหลาย เสียงที่เคยเบากลับดังกระหึ่มในเวลานี้ ทำให้ต้องรีบเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ ตั้งใจจะกดปิดเสียง เพราะถ้าปล่อยให้ดังนานกว่านี้ อาจจะโดนชาว social ขุดคุยหรือไม่ก็โดนเจ้าหน้าที่มายึดโทรศัพท์แล้ว จะไปเจอคลิปลับ ที่เคยแอบเอาเครื่องอัดเก็บไว้ในกางเกง เอ๊ย..กระเป๋าเสื้อตอนประชุม

            ทันทีที่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ เจ้ากรรมยังไม่ทันได้กดปุ่มอะไร ก็สัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านเข้ามาตามมือ ไล่มาที่แขน พุ่งขึ้นสู่สมอง กระตุกให้อดใจไม่ได้ ที่เอื้อมมือกดปุ่มรับข้อความ เพื่อเปิดอ่านแทนกดปิด ทันที่กดปุ่มรับข้อความที่อัดอัั้นอยู่ที่ต้นทาง พุ่งทะลักทะลายราวกลับกลัวว่า สัญญาณจะถูกตัด เพราะบนลานสนที่สงบสงัด มันแทบจะไร้สัญญาณ แต่ข้อความที่ได้รับกลับไหลมาราวเขื่อนแตก

            อาจารย์ต้องรับผิดชอบ มาสานต่องานให้จบนะครับ เพราะจากครั้งก่อนที่อาจารย์แจ้งมาว่า เครื่องแบบที่ได้รับเกินกว่า 2 ชุด ต่อคนต่อปี ถือเป็นเงินได้ของพนักงาน ฝ่ายบุคคลและบัญชีของผม ก็ประสานงานไล่บี้กับพนักงาน เริ่มตั้งแต่การหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งทุกคนถูกหักเพิ่มขึ้นไปบานเลย และยังช่วยกันจัดทำแบบ ภงด. 91 โดยนำมูลค่าเครื่องแบบส่วนเกินที่ได้รับฟรี ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ของพนักงานด้วย ผ่านการยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปไม่นาน เหมือนน้องทีมงานเพิ่งรู้สึกตัวว่า เสียภาษีมากกว่าเดิม เงินเหลือน้อยกว่าเดิม เริ่มกระบวนการไต่สวนหาความจริงจนได้ข้อมูลว่า น้องชีน้องเอชแอบเอาค่าเครื่องแบบส่วนเกิน ไปเป็นเงินได้ของพนักงานและหักภาษียื่นนำส่งครบ

            เพื่อตัดตอนไม่ให้เสียงคลิปที่ผมคุยกับเทวดา เอ๊ย..อาจารย์ถูกเผยแพร่ออกไป ผมเลยคิดใหม่ทำใหม่ว่า จะให้เครื่องแบบพนักงานแค่สองชุด สำหรับชุดส่วนที่เกินจะให้พนักงานมาซื้อ แต่จะให้ซื้อในราคาที่มีกำไรก็กลัวถูกล้อมปิดโรงงาน จะขายเท่าทุนก็กลัวน้องชีไม่ยอม จะขายขาดทุนก็กลัวคุณสรรพ์จะมาตามเก็บส่วนต่าง เลยต้องขอเชิญอาจารย์ไปออกโหนกระสวยด้วยกันว่า ทำได้หรือไม่ทำได้หรือเปล่า

ขายเครื่องแบบให้พนักงาน

ถือเป็นเงินได้จากการขาย

ต้องเรียกเก็บและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม

ต้องนำรายได้จากการขายมาเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

            เอะอะก็จะให้เป็นบอส ผ่านไปสักพักจะยกให้เป็นเทวดา เผลอหน่อยเดียวจะชวนไปโหนตลอด ไม่ไหวจะเคลียร์ ขออยู่นิ่งนิ่งเงียบเงียบดีกว่า ช่วงนี้คดีก็เข้าหาชุกเหมือนกัน สงสัยจะเป็นผลกรรมที่เคยทำแต่เดิมตามมา ดอกแรกที่ต้องพบเจอ เมื่อเปลี่ยนจากการให้เครื่องแบบพนักงานเกินกว่า 2 ชุด ส่วนที่เกินหักเป็นรายจ่ายทางบัญชี แต่ต้องนำมาบวกกลับในการคำนวณภาษี พอเปลี่ยนเป็นขายเครื่องแบบส่วนที่เกิน 2 ชุด ให้พนักงานแบบนี้ สามารถนำค่าเครื่องแบบมาหักเป็นรายจ่ายทางบัญชีและภาษีได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องบวกกลับหักศอกแต่ประการใด แต่เมื่อขายก็ต้องนำรายได้จากการขายไปรวมคำนวณภาษีให้ครบถ้วน อย่าลืมว่าจำหน่ายจ่ายโอนมี ไม่มีค่าตอบแทน ถือเป็นการขายที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ก็นำส่งให้ครบถ้วน จะได้ไม่ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า

ระเบียบสวัสดิการพนักงานกำหนดเรื่อง

การขายสินค้าราคาพิเศษ

การขายสินค้าและแถมสินค้า

ส่วนลดและของแถมไม่ถือเป็นรายได้

            ผ่านด่านแรกแล้ว ก็มาด่านที่สองเรื่องการกำหนดราคาขาย ขอเพียงให้คุณพี่ย้อนกลับไปดูว่า เคยมีระเบียบสวัสดิการเรื่องเครื่องแบบพนักงานไว้หรือไม่ ถ้าไม่มีก็กลับไประบุให้ชัดเจนว่าให้ 2 ชุด แต่หากพนักงานต้องการเพิ่ม จะขายให้ในราคาพิเศษ เช่น ขายในราคาทุน หรือกำหนดราคาขายให้สูงกว่าราคาทุน พอให้คุณสรรพ์ไม่ค้อนก็ได้ หรือจะทำตามกระแสสมัครสมาชิก Premium เอ๊ย..จัดโปรแกรมส่งเสริมการขาย ให้พนักงานได้กระชุ่มกระชวยจิตใจ เวลาเห็นว่ามีการลดแลกแจกแถมหน่อย เช่น ลด 70% ถ้าซื้อครบ 2 ชิ้น, จัดโปรซื้อ 1 แถม 1 ก็เก๋ไก๋ไม่เบา แค่นี้พนักงานก็ได้ซื้อเครื่องแบบในราคาพิเศษ บริษัทก็นำรายได้หลังหักส่วนลด มาคำนวณเป็นรายได้ สามารถนำต้นทุนเครื่องแบบที่ขายรวมกับเครื่องแบบที่แถม ไปหักเป็นรายจ่ายของกิจการได้แล้ว หวังว่าคงเคลียร์ใจกันเรียบร้อย ไม่ต้องเปิดคลิปไม่ต้องเชิญไปไหนทั้งนั้น อยากอยู่ที่ชอบที่ชอบเงียบๆ คนเดียว