ที่ตาบ้านหลาน
"การคิดที่ยิ่งใหญ่ในโลกนี้คือ
รู้ว่าทำอย่างไรจึงจะพอใจ
ในตัวของเราเอง"
มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว ไม่ต่างจาก มีนาแปลงน้อยต้องมาคอยดูแลเอาใจใส่ ใช้ประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม เอ่อ..หมายถึงใช้ประโยชน์ในการสร้างรายได้ให้เติบโต ถ้ารายได้งอกงามมากกว่าภาษีก็สบายใจไป แต่หากไม่สามารถนำที่ดินมาสร้างรายได้ ก็ต้องหาทางนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ให้เข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่จะประหยัดภาษีได้มากน้อย ไม่อย่างนั้นที่ดินที่มีก็จะสร้างผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าแน่นอน ที่ผ่านมา..ตาได้ปราบ มาช่วยเรื่องภาษีที่ดินที่ใช้ในการเกษตร จนทำให้ประหยัดภาษีไปได้มากโข แต่ก็ได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพราะตายังอดห่วงเรื่องที่ดินแปลงอื่นไม่ได้
ที่ดินบางแปลง จะยกให้ลูกหลานก็กลัวลูกหลานเอาไปขายเก็บเงินเข้ากระเป๋า ยิ่งช่วงนี้มีข่าวอากงอาม่าลุกขึ้นมาทวงคืน การให้ทั้งผ่านฟีดผ่านโหนกระสวยเป็นข่าวใหญ่โต โดนข้อหาลูกหลานอกตัญญูเสียเงินเสียทองมีคดีฟ้องศาลกันใหญ่โต ทำให้ตาต้องกลับมาขบคิดว่า จะมีลูกคนไหนพอจะเป็นที่พึงที่พิงได้บ้าง ยิ่งทุกวันนี้ ตาแอบหนียายไปเที่ยวเล่นใน Social เห็นคนรุ่นใหม่ส่งเสียงกันดังลั่นว่า เมื่อตั้งใจจะมีลูกก็ต้องรับผิดชอบดูแลให้ดีถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ จะให้ลูกหลานมาเลี้ยงได้รับตำแหน่งลูกกตัญญูเป็นไปไม่ได้อยากจะมีลูกเองก็ต้องรับภาระไว้เอง ลูกหลานของตาจะได้อ่านและคิดแบบนี้ไหม ยากจะเดา
ยิ่งลูกกำลังจะมีเหย้ามีเรือนเป็นฝั่งเป็นฝาไปอีกคน ก็ยิ่งเป็นห่วง จะไปอยู่ที่ไหนไปอยู่กับใครอยู่อย่างไร ตาเลยคิดว่าจะให้ลูกมาสร้างบ้านบนที่ดินของตา อย่างน้อยที่ดินก็เป็นของตาลูกหลานก็ยังน่าจะอยู่ใกล้กันพอเป็นที่พึ่งพิงอาศัยไหว้วานกันได้ ถ้ายกที่ดินไปให้สร้างบ้านไม่รู้ว่า จะหลงลืมตัวเผลอไผลไปมีปัญหาอาจจะตกเป็นสินสมรส มีเรื่องราวใหญ่โตกันไปอีก แต่ยังอดกังวลไม่ได้ว่าที่ดินของตา บ้านเป็นของลูก ภาษีที่ดินใครต้องรับผิดชอบ จะได้คุยกับลูก และว่าที่สะใภ้ให้ชัดเจนไม่ต้องเกี่ยงกัน
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
เจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นผู้รับผิดชอบ
คุณตาและคุณยายคงจำได้ดี เพราะโดนมาหลายดอกแล้ว ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อใช้พักอาศัยเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีหน้าที่ต้องเสียในอัตรา 0.3% ของราคาประเมินที่ดินและราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง ถ้าเป็นบ้านหลังหลักก็จะได้รับยกเว้น สำหรับมูลค่าบ้านส่วนที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งคุณตาและคุณยายก็ได้ใช้สิทธิ์ไปแล้ว แต่บ้านหลังอื่นคุณตาจะใช้สิทธิ์ยกเว้นอย่างไร ขออย่าให้คุณยายรู้ไม่งั้นบ้านแตกสาแหรกขาดแน่นอน
สร้างบ้านบนที่ดินของคนอื่น
เจ้าของที่ดินเสียภาษีที่ดิน
เจ้าของสิ่งปลูกสร้างเสียภาษีสิ่งปลูกสร้าง
กฎหมายเค้าร่างไว้ชัดเจนว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเก็บจากเจ้าของ ตีความตรงไปตรงมาได้ว่าเจ้าของที่ดินก็ต้องเป็นผู้เสียภาษีที่ดิน ส่วนเจ้าของสิ่งปลูกสร้างก็ต้องรับภาระเสียภาษีเองแยกไปแต่จะผลักภาระโยนให้ใครเสียแทนก็ว่ากันไป
บ้านหลังหลักสร้างบนที่ดินคนอื่น
ยกเว้นภาษีสำหรับมูลค่าที่ไม่เกิน 10 ล้านบาท
เสียภาษีอัตรา 0.2%
เหตุเปลี่ยน ผลก็เปลี่ยน จากเดิมที่บ้านพักอาศัยที่เป็นบ้านหลังหลัก จะได้รับยกเว้นส่วนมูลค่าที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท แต่พอคุณหลานมาสร้างบ้านบนที่ดินคุณตา เท่ากับเป็นการสร้างบ้านบนที่ดินที่เจ้าของบ้านไม่ได้เป็นเจ้าของแบบนี้ จะได้รับยกเว้นแค่ 10 ล้านบาท ส่วนภาษีได้รับการเมตตาลดลงให้นิดนึง โดยให้เสียภาษีอัตรา 0.2% หากสร้างบ้านราคา 40 ล้านบาทก็จะเสียภาษีแค่ 2,000 บาทเอง ..ขนหน้าแข้งไม่ร่วง
ที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย
เสียภาษีอัตรา 0.3%
คุณตาอย่าเพิ่งดีใจที่ลูกคุณตาจะเสียภาษีแค่นิดเดียว มีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย ถ้าคุณตาสร้างบ้านบนที่ดินและใช้เป็นบ้านพักอาศัยหลังหลักจะได้รับยกเว้นสำหรับมูลค่าที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท แต่พอคุณตาไม่ได้สร้างบ้านไม่ได้เข้าไปใช้อยู่อาศัยไม่ว่าจะบ้านใหญ่หรือบ้านน้อย เอ๊ย..หลังหลักหรือหลังรอง สิทธิในการยกเว้นก็หายวับไปกับตา เสียภาษีที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการพักอาศัยเต็มจำนวน
รู้ก่อนลุย !! |
|
|
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคือ 1) เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2) เจ้าของอาคารชุด 3) ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินของรัฐ 4) ผู้มีหน้าที่ชำระภาษีแทนผู้เสียภาษี เช่น ผู้จัดการมรดก หรือทายาท ผู้จัดการทรัพย์สิน
|
#ที่ดิน #สิ่งปลูกสร้าง #บ้านหลัก #บ้านรอง #ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง #ที่ดินใช้ประโยชน์เพื่อการพักอาศัย #สร้างบ้านบนที่ดินคนอื่น #ที่ดินใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร
#ที่ดินใช้ประโยชน์เพื่อการพาณิชย์ #ที่ดินรกร้างว่างเปล่า #ราคาประเมินทุนทรัพย์