กระเป๋าแฟน

 

 

"มองปัญหา ให้เหมือนกับ เม็ดทราย

ถึงจะเยอะมากมาย แต่ทรายก็เล็กแค่นิดเดียว"

 

เงินแฟนก็คือเงินเรา เงินเราไม่ใช่เงินแฟน เป็นเรื่องที่หนูประกาศเป็นกฎอัยการศึกประจำบ้าน และบังคับใช้มาตลอด ซึ่งเรื่องราวก็ดำเนินมาด้วยดี จนมาถึงวันนี้วันที่ตัดสินใจจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อทำธุรกิจ ซึ่งเราก็นำกฎเรื่องเงินแฟนเป็นเงินเรามาบังคับใช้ทันที การซื้อสินค้าเข้ามาร้านเพื่อจำหน่ายซื้ออุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ หนูให้แฟนใช้เงินตัวเองจ่ายทั้งหมด แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อตั้งบริษัทแล้วต้องทำบัญชีโดยนำหลักฐานทั้งหมดมาใช้บันทึกบัญชีแบบนี้ หนูต้องทำเอกสารอะไรไว้ไหม ที่สำคัญเวลาบริษัทเริ่มมีเงินจะคืนเงินให้กับหนู เอ๊ย แฟนหนูได้ไหม

 

การทำธุรกิจ

ควรแยกกระเป๋าเงินส่วนตัวกับกิจการออกจากกัน

เงินส่วนตัวใช้จ่ายเรื่องส่วนตัว

เงินกิจการใช้จ่ายเรื่องกิจการ

 

            เรื่องเงินแฟนเป็นเงินหนูปราบไม่อยากก้าวล่วง แต่การจะนำกฎบ้านมาใช้กับการทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ต้องห้ามต้องระมัดระวังให้มากที่สุด หากทำได้ควรแยกกระเป๋าเงินให้ชัดเจนว่าเป็นของใครรายจ่ายไหนเป็นความรับผิดชอบของใครคนนั้นก็ควรจ่าย หากเงินไม่พอค่อยทำการหยิบยืมกันให้ถูกต้องมีหลักฐานการกู้ยืมให้ชัดเจน ส่วนจะคิดดอกเบี้ยหรือไม่แล้วแต่จะตกลงกันแต่ในประเด็นภาษี ต้องมาพิจารณาว่าหากคิดดอกเบี้ยประโยชน์ที่ได้รับมากกว่าสิ่งที่ต้องเสียไปหรือไม่ เช่นถ้านำดอกเบี้ยมาหักเป็นรายจ่ายแล้วเสียภาษีน้อยกว่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่ได้ชำระไปแล้วหรือน้อยกว่าภาษีเงินได้ของกรรรมการที่ได้รับดอกเบี้ยแบบนี้ก็น่าจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืม

 

กรรมการนำเงินส่วนตัวมาจ่ายชำระ

ค่าสินค้า, เครื่องมือ, อุปกรณ์ให้กับกิจการ

เป็นการให้กิจการกู้ยืมเงิน

 

            แยกกระเป๋าให้ชัดเจนมันก็จะดีแบบนี้ รู้ล่วงหน้าตัดก่อนตายเตือนก่อนวายวอด พอรู้ว่าบริษัทขาดเงินคุณน้องก็ไปควักกระเป๋าเงินคุณแฟน ในฐานะกรรมการ  มาให้บริษัทไว้ใช้หมุนเวียน หากไม่ต้องการให้บริษัทเป็นภาระในการหาเงินมาคืนมากจนเกินไป ก็แค่ให้กู้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ยเวลามาคืนจะได้คืนเฉพาะเงินต้น ไม่ต้องรับภาระมากไป แต่ถ้าจะคิดดอกเบี้ยก็ไม่ได้มีใครว่าอะไร ตามหลักใครใคร่ค้าช้างค้าใครใคร่ค้าม้าค้า

 

จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้กรรมการ

ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%

กรรมการผู้รับดอกเบี้ย

เลือกไม่นำไปรวมคำนวณเงินได้เพื่อเสียภาษีได้

 

            จะคิดดอกเบี้ยกันเท่าไหร่ก็ว่าไปเอาให้พอหอมปากหอมคอ อาจจะอ้างอิงดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของสถาบันการเงินก็ได้จะ MLR, MOR หรืออะไรก็ว่าไป สิ่งสำคัญคือเวลาที่บริษัทจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้กับกรรมการจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วย ส่วนบริษัทก็นำดอกเบี้ยที่จ่ายหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้ด้วย คิดแบบง่ายสั้นกระชับจะเห็นว่าประหยัดภาษีได้ 5% เพราะดอกเบี้ยจ่ายทำให้กำไรของบริษัทลดลง ประหยัดภาษีในส่วนนี้ไป 20% แต่กรรมการถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า

 

กรรมการไม่มีเงินได้ไม่ต้องเสียภาษี

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย มากกว่าภาษีเงินได้

ขอคืนภาษีที่ชำระไว้เกินได้

 

คุณน้องอุตสาห์ก็ไปล้วงกระเป๋าคุณแฟนมาให้บริษัทกู้ยืม รับดอกเบี้ยเข้ากระเป๋าอมยิ้มแก้มตุ่ยมาแล้ว แม้จะได้รับไม่ครบเพราะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปก่อน 15% ถ้าคุณน้องสำรวจตรวจตราแล้วพบว่าตัวเองไม่มีเงินได้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแม้สักบาท คุณน้องสามารถทำใจกล้าไปล้วงภาษี ถูกหัก ณ ที่จ่าย จากคุณสรรพ์ออกมาได้ โดยลองนำดอกเบี้ยรับไปรวมคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อเสียภาษีบุคคลธรรมดา หากภาษีที่คำนวณได้น้อยกว่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ถูกหักไว้ ก็สามารถขอคืนได้ แต่หากภาษีที่คำนวณได้มากกว่า แปลว่าต้องจ่ายคืนก็ค่อยล้มเลิกความคิดขอคืนไปซะ ไม่อย่างนั้นแทนที่จะได้คืนกลับต้องควักกระเป๋าจ่ายแน่

 

 

 

รู้ก่อนลุย!

 

   มาตรา 48  เงินได้พึงประเมินต้องเสียภาษีเงินได้ดังต่อไปนี้

(3) ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีตาม (1) และ (2) ก็ได้ สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ก) และ (ช) ดังต่อไปนี้

 (ก) ดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักร ดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์ ดอกเบี้ยหุ้นกู้ ดอกเบี้ยตั๋วเงินที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ดอกเบี้ยที่ได้จากสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชย กรรม หรืออุตสาหกรรม

 

#เจ้าหนี้เงินกู้ยืมกรรมการ #แยกกระเป๋าเงินบริษัท #กระเป๋าเงินส่วนตัว #ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม #ภาษีเงินได้นิติบุคคล #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา #ภาษีหักณที่จ่าย #ขอคืนภาษี #ภาษีธุรกิจเฉพาะ

NEED SOME BUSINESS SUGESSION?

WE CAN HELP YOU

เราภูมิใจเป็นอย่างมากหากท่านสามารถใช้ประโยชน์ หรือส่งต่อข้อมูลข่าวสารให้เพื่อนนักธุรกิจ นักบัญชี ภาษี และอื่นๆ เพื่อนำไปใช้ และได้ประโยชน์อย่างเต็มที่...อย่างไรก็ตาม สำหรับการถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากบรรดาที่ปรึกษาในการแวะเวียนมาบรรเลงใน msgconsultant.com ประกอบด้วย

We are very proud if you can take advantage or forward the information to the business tax accountants and others to apply and to take full advantage of them. However, knowledge that has been in favor of those that came into play.

Related Site :

บริษัท เอ็มเอสจี คอนซัลแทนท์ จำกัด

149, 151 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
โทร. 02-803-6820, 02-803-6821, 02-803-6822
แฟกซ์ 02-903-0080 ต่อ 6823
Email : info@msgconsultant.com