ที่ดินเกษตร
"คบคนใจกว้างจะมีสังคมที่กว้างขึ้น
คบคนใจบุญจะเกิดจิตเมตตามากยิ่งขึ้น""
คบคนกล้าหาญจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
คบคนมองโลกในแง่ดีจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น"
อ่านบทความที่หลานปราบเขียนมานาน อดชื่นชมในความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ เคล็ดลับทั้งทางบัญชี ภาษี การเงิน และธุรกิจไม่ได้ ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรได้แต่อวยพรในใจให้หลานมีความสุขความเจริญความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม
ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยที่ต้องส่งคำถามมาให้ช่วยตอบ แต่มาวันนี้ตาได้ยินมาว่าเพื่อนของยายหลายคนโดนประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องยักแย่ยักยันเดินทางไปจ่ายภาษีที่อบต.กว่าจะไปกว่าจะกลับแทบลมจับ ตาได้แต่คิดว่าลำพังแค่มีที่ดินไว้ใช้ทำกินก็ไม่มากไม่มายอะไร หาเช้าพอแค่กินค่ำ หากต้องไปเสียภาษีที่ดินแล้วตากับยายจะอยู่กันอย่างไร เงินดิจิตอลก็คงไม่ได้ ไอ้สมารท์โฟนไม่สมาร์ทโฟนที่ต้องใช้ลงทะเบียนยืนยันตัวตน ตาไม่มีกับเค้าหลอกเวลาจะใช้โทรศัพท์บางที่ต้องมาคอยเช็ดน้ำหมากของยายที่ติดอยู่บนโทรศัพท์อยู่เลย สรุปว่าตาอยากรู้ว่าจะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากน้อยแค่ไหน
ที่ดินที่ใช้เพื่อการเกษตร
เสียภาษีเริ่มต้น 0.01%
จากราคาประเมินที่ดิน
ได้รับคำอวยพรจากคุณตาแบบนี้จะนิ่งเฉยไม่ตอบก็กลัวจะถูกถอนคืนคำอวยพรและกลายเป็นคนไม่มีเมตตาต่อผู้สูงอายุ ทำได้แค่เพียงก้มหน้าก้มตาไปหาคำตอบมาให้คุณตาสบายใจจากนั้นก็บอกเล่าคุณตาให้สบายใจว่าที่ดินที่ใช้เพื่อการเกษตรเค้าเก็บภาษีนิดเดียวพอขำขำเก็บเริ่มต้นที่ 0.01% เองถ้าที่ดินของคุณตาใช้เพื่อการเกษตรจริงสมมติว่าราคา 30 ล้านบาทคุณตาก็จะเสียภาษีแค่ 5,000 บาทเองขนหน้าแข้งไม่น่าร่วงจะใช้เงินคุณตาหรือคุณยายก็ไม่แน่กระทบ
ที่ดินที่ใช้เพื่อการเกษตร
มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท
ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
แต่เดี๋ยวก่อนเพื่อบรรเทาภาระภาษีของเกษตรกรชาวไร่ชาวนาที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติคุณพี่เค้าก็เลยกำหนดว่าหากที่ดินมีราคาประเมินไม่ถึง 50 ล้านบาท จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีที่ดินส่วนที่เกินค่อยนำไปคำนวณภาษีตามอัตราที่เค้ากำหนดเท่ากับว่า ถ้าที่ดินของคุณตาราคา 30 ล้านบาทก็ไม่ต้องเสียภาษีส่วนที่เกินค่อยเสียภาษี ถ้าที่ดินคุณตาราคา 60 ล้านบาทก็จะเสียภาษีจากราคาที่เกิน 50 ล้านบาท โดยนำราคาที่เกินคือ 10 ล้านบาทมาคำนวณภาษี 0.01% เท่ากับ 1,000 บาท
ปลูกพืชเพื่อการเกษตรตามที่กำหนด
พื้นที่ใช้ปลูกพืชต้องไม่ต่ำกว่าที่กำหนด
ใครใคร่ค้าค้า ใครใคร่ค้าม้าค้า จูงวัวไปค้าขี่ม้า ไปขายเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพที่ใครจะทำอะไรก็ได้ แต่การจะใช้พื้นที่ทำการเกษตร เพื่อขอเสียภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง เพื่อประโยชน์ทางการเกษตรต้องเป็นไปตามที่กำหนดมากกว่าได้น้อยกว่าไม่ได้ คุณตาคงต้องลองไปสำรวจดูว่าเข้าเงื่อนไขไหม หากไม่เข้าเงื่อนไขก็ไม่ใช่เพื่อการเกษตรสิทธิยกเว้นก็จะพลอยหมดไป และเสียภาษีจากการใช้ประโยชน์ประเภทอื่น กุศลผลบุญที่คุณตาทำไว้จะช่วยหรือไม่ช่วยก็สุดแล้วแต่กรรมละครับ
เหมือนบุญมีแต่กรรมมาบัง เพราะตาไม่ได้มีที่ดินแค่แปลงเดียวแต่มีหลายแปลงอยู่จังหวัดโน้นบ้างจังหวัดนี้บ้างรวมแล้วอาจจะเกิน 50 ล้านบาท ไปไกลโขตาก็ต้องกลายเป็นผู้ประสบภัยทางภาษีด้วยเหรอตาจะเอาเงินที่ไหนมาเสียภาษี ที่ดินที่มีก็ยังใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ที่พอจะหวังพึ่งได้ก็คงมีแต่แป้งที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน แต่เห็นคนเป็นใหญ่เป็นโตเพราะผงแป้งมาหลายคน ก็ได้แต่เฝ้ารอว่าจะขายใครได้บ้างเผื่อจะแปลงเป็นเงินมาเสียภาษีได้บ้าง
ที่ดินสิ่งปลูกสร้าง
รวมคำนวณมูลค่าเป็นรายอบต.
อยากบอกว่าใครเจอปราบเร็วคนนั้นโชคดีก็ว่าได้ เพราะการนำมูลค่าที่ดินมาเป็นฐานภาษี เพื่อคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีกี่แปลง จะมีกี่ที่ต้องนำมารวมหมด แต่การนำมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมารวมจะคำนวณเฉพาะที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในอบต.เดียวกัน รวมได้เท่าไหร่ก็นำมูลค่าที่ยกเว้นมาหักก่อนส่วนที่เหลือค่อยนำมาคำนวณภาษี เมื่อตามีที่ดินหลายแปลงกระจายอยู่หลายจังหวัด อำเภอ ตำบล หรืออบต. ก็นำเฉพาะที่ดินสิ่งปลูกสร้างทุกแปลงที่อยู่ในอบต.นั้นมารวมหากมูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาทก็ไม่ต้องเสียภาษี คุณตาลองไปทำทะเบียนที่ดินสิ่งปลูกสร้างดูว่าเป็นอย่างไรแต่เชื่อว่าคุณตาและคุณยายน่าจะมีโชคอยู่บ้าง
รู้ก่อนลุย ! |
|
|
มาตรา ๔๐ ในกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมอยู่ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นรวมกันในการคำนวณภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท
|
#ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร #ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย #ใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ #ที่ดินรกร้างว่างเปล่า #บุคคลธรรมดา #นิติบุคคล #ฐานคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง #ฐานยกเว้นภาษี #คำนวณมูลค่าเป็นรายอปท. #ราคาประเมินทุนทรัพย์