จดก่อนจดหลัง

 

 

"ไม่ต้องเสียใจ

ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาต้องมี

แต่ก็แก้ไขได้ด้วยความฉลาด

ที่ความผิดพลาดมันสอนให้เรา

ทุกครั้งที่เราทำผิดไปนั่นเอง"

 

กว่าจะรวมจิตใจเก็บทรายสวยๆมากอง ก่อปราสาทสักหลัง ก่อกำแพงประตู ก่อสะพานสร้างลำธารเป็นบทเพลงที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จ แม้จะมีอุปสรรคขวากหนามหรือความผิดพลาดเกิดขึ้นเท่าไหร่ก็ยังมีพลังใจที่จะสู้ต่อ แต่อีกมุมหนึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า หากเริ่มต้นผิดหรือกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็มีผลทำให้ล้มเหลวหรือความสำเร็จต้องถูกเลื่อนเวลาออกไปได้ยาวนาน จนบั่นทอนจิตใจได้เหมือนกัน

 

ใช่เลยค่ะหลังจากหนูติดกระดุมเม็ดแรกผิดทำเอาเสียทรงมาหลายปี พอตั้งหลักปลดกระดุมโดยไม่ต้องถอดเสื้อทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นปรับกระบวนความคิดใหม่ เริ่มต้นกลัดกระดุมเม็ดแรกใหม่เดินทางบนถนนสายเดิมแต่ด้วยมุมมองใหม่ไม่นานก็พบว่ากลิ่นหอมของความสำเร็จก็เริ่มมาเยือน ทำให้งานประจำที่ทำก็ทำเงินและเสียภาษีอย่างถูกต้อง ส่วนงานอดิเรกที่ทำนอกเวลาก็เริ่มไปได้ด้วยดี ตัดสินใจขยายธุรกิจเต็มตัวตั้งใจว่าจะเปิดบริษัททำธุรกิจขนส่งสินค้าโดยจะใช้เงินสะสมที่มีมาลงทุนประมาณ 1.0 ล้านบาท และจะกู้เงินจากธนาคารในนามบุคคล เพื่อนำไปซื้อรถบรรทุกเลยอยากรู้ว่า ควรจดทะเบียนตั้งบริษัทเพื่อซื้อรถในนามนิติบุคคลดีหรือว่าซื้อรถนามบุคคลธรรมดาดี

 

ซื้อรถบรรทุกในนามบริษัท

คำนวณค่าเสื่อมราคาและสึกหรอ

หักเป็นรายจ่ายของกิจการได้

 

กระดุมเม็กแรกที่ต้องกลัดให้ถูกต้องก่อนคือ จะทำธุรกิจขนส่งในนามบริษัทหรือในนามบุคคลธรรมดา เพราะมันจะมีผลผูกพันไปหมด หากทำธุรกิจในนามนิติบุคคลแต่ไปซื้อรถบรรทุกในนามบุคคลธรรมดา มันก็จะผิดฝาผิดตัวกลายเป็นว่าต้องสร้างเหตุให้บริษัทเช่ารถบรรทุกจากบุคคลธรรมดา ทำให้บริษัทมีรายจ่ายเกี่ยวค่าเช่ารถบรรทุกและนำค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าน้ำมัน, ค่าซ่อมแซม, ค่าประกันภัยรถบรรทุก มาหักรายจ่ายได้ แต่ขณะเดียวกันบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของรถบรรทุกก็จะมีรายได้จากการให้เช่ารถบรรทุก ซึ่งต้องนำไปคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีก จากที่จะทำธุรกิจแค่ขนส่งกลายเป็นต้องทำธุรกิจให้เช่ารถยนต์ไปอีก

 

โอละค่ะ อธิบายง่ายสั้นกระชับแต่รู้เรื่องในกระบวนท่าเดียว หนูจำได้ว่าพี่ปราบเคยอธิบายไว้แล้วว่าการทำธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างและหนูว่าหนูได้คำตอบแล้วว่าน่าจะทำในนามนิติบุคคลดีกว่า เพราะเวลาเสียภาษีจะได้ไม่ต้องนำมารวมกับเงินเดือนที่หนูได้รับจากการทำงานอยู่ ฟันธงว่าหนูจะไปจดทะเบียนบริษัทให้เรียบร้อยก่อน แล้วซื้อรถบรรทุกในนามบริษัท

 

ปัญหาที่หนูยังคาใจอยู่คือการซื้อรถยนต์ครั้งนี้ จะกู้เงินจากพี่แบ๊งค์ เพื่อไปตัดสดกับบริษัทขายรถบรรทุก เพราะหนูคิดมาดีแล้วว่าดอกเบี้ยถูกกว่า แต่พี่แบ๊งค์บอกว่าประวัติหนูดี ให้กู้ในนามบุคคลดีกว่าดอกเบี้ยจะได้ต่ำหน่อย แบบนี้หนูกู้เงินได้มาแล้ว นำเงินกู้ยืมมาชำระเป็นทุนจดทะเบียนดีไหม ทุนจะได้ใหญ่โตด้วย จากนั้นก็นำเงินกู้ยืมที่กลายเป็นเงินลงทุนไปชำระเงินค่ารถบรรทุก

 

เงินให้กู้ยืมคิดดอกเบี้ยได้

เงินลงทุนต้องรอเงินปันผล

 

            แปลงหนี้เป็นทุนได้แบบไม่ต้องจบปริญาโทหรือปริญญาเอกเลย ผู้ถือหุ้นหรือกรรมการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อนำไปซื้อรถบรรทุกแต่พอได้เงินกู้ยืมเปลี่ยนความคิดนำเงินมาชำระเป็นค่าหุ้นของบริษัทก่อนนำไปชำระค่ารถบรรทุกทำให้ทุนของบริษัทใหญ่โตกว่า เงินส่วนตัวที่นำมาลงทุนสุดยอดแห่งความคิดจริงๆ มีเงิน 1 ล้านบาท กู้ยืมมาซื้อบรรทุกอีก 2 ล้านบาท กลายเป็นเงินลงทุนในบริษัททั้งหมด 3 ล้านบาท

 

            ประเด็นที่น้องหญิงต้องพิจารณาคือ ตอนกู้ยืมเงินจากธนาคารเราต้องจ่ายดอกเบี้ย และเงินต้นคืนตามระยะเวลาที่ตกลงกัน แต่พอนำเงินมาลงทุนในนามบริษัทจะชักเข้าชักออกหรือให้บริษัทจ่ายดอกเบี้ยหรือคืนเงินลงทุนให้น้องหญิง เพื่อนำไปคืนเงินกู้และดอกเบี้ยให้กับพี่แบ๊งค์มันทำไม่ได้นาคราบ เพราะการนำเงินมาลงทุนในบริษัทจะได้รับผลตอบแทนคือเงินปันผลต่อ เมื่อบริษัทมีกำไรเท่านั้นเท่ากับว่าเงินที่ลงทุนจะนอนแน่นิ่งจนกว่าจะมีกำไร ซึ่งไม่น่าจะสอดคล้องกับการที่น้องหญิงต้องชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย เงินส่วนนี้น้องหญิงจะเอามาจากไหนก่อนจะไปยืมท่านพี่จะได้เงินมาไหม

 

            ถ้าคิดแบบง่ายๆ หากจะให้กิจการจ่ายเงินคืนให้กับน้องหญิง เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยให้กับธนาคารได้ น้องหญิงจะต้องนำเงินที่กู้มาจากพี่แบ๊งค์มาให้บริษัทกู้อีกทอด กำหนดให้จ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเท่ากับที่จ่ายให้กับพี่แบ๊งค์เป็นอย่างน้อย แบบนี้จะไม่สร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา หรือไม่ก็ต้องกำหนดเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าที่ปรึกษาหรืออื่นๆ ให้น้องหญิงเพื่อนำไปจ่ายแทน

 

จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%

เลือกไม่นำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้

เงินเดือน, ค่าจ้าง, ค่าที่ปรึกษา

ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้


            ถือเป็นผลข้างเคียงของการนำเงินกู้ยืมจากธนาคารมาชำระเป็นเงินค่าหุ้นก็ว่าได้ เพราะเมื่อน้องหญิงคิดดอกเบี้ยจากบริษัท เวลาบริษัทจ่ายดอกเบี้ยให้กับน้องหญิงจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายอัตรา 15% แต่น้องหญิงสวยพอ ท่านพี่เลยให้เลือกว่าจะนำดอกเบี้ยไปรวมกับเงินได้อื่น เพื่อคำนวณภาษีหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนจากคิดดอกเบี้ยเป็นการจ่ายค่าจ้างแบบนี้ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่น เพื่อคำนวณภาษีแน่นอนน้องหญิงต้องเลือกเอาว่าแบบไหนได้ประโยชน์ประหยัดภาษีได้มากกว่า

 

            เรื่องของการที่ต้องให้กรรมการกู้ยืมเงิน เพื่อนำมาให้บริษัทใช้จ่ายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับ SME’s ที่จัดตั้งใหม่ทำให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบ ทำให้งบการเงินผิดพลาดคลาดเคลื่อน รวมถึงมีผลทำให้โดนประเมินเป็นอยู่บ่อยมีโอกาสจะหยิบมาเล่าให้น้องหญิงและท่านพี่ได้อ่านต่อ

 

 

รู้ก่อนลุย!

 

 มาตรา 48  เงินได้พึงประเมินต้องเสียภาษีเงินได้ดังต่อไปนี้

(3) ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษี                 ตาม (1) และ (2) ก็ได้ สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (4) (ก) และ (ช) ดังต่อไปนี้

(ก) ดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักร ดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์ ดอกเบี้ยหุ้นกู้ ดอกเบี้ยตั๋วเงินที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ดอกเบี้ยที่ได้จากสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชย กรรมหรืออุตสาหกรรม

 

#เงินกู้ยืมกรรมการ #ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม #ซื้อรถยนต์ #ค่าเสื่อมราคาและสึกหรอ #ภาษีเงินได้นิติบุคคล #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา #ภาษีธุรกิจเฉพาะ #ภาษีหักณที่จ่าย #FinalTax

 

NEED SOME BUSINESS SUGESSION?

WE CAN HELP YOU

เราภูมิใจเป็นอย่างมากหากท่านสามารถใช้ประโยชน์ หรือส่งต่อข้อมูลข่าวสารให้เพื่อนนักธุรกิจ นักบัญชี ภาษี และอื่นๆ เพื่อนำไปใช้ และได้ประโยชน์อย่างเต็มที่...อย่างไรก็ตาม สำหรับการถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากบรรดาที่ปรึกษาในการแวะเวียนมาบรรเลงใน msgconsultant.com ประกอบด้วย

We are very proud if you can take advantage or forward the information to the business tax accountants and others to apply and to take full advantage of them. However, knowledge that has been in favor of those that came into play.

Related Site :

บริษัท เอ็มเอสจี คอนซัลแทนท์ จำกัด

149, 151 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
โทร. 02-803-6820, 02-803-6821, 02-803-6822
แฟกซ์ 02-903-0080 ต่อ 6823
Email : info@msgconsultant.com