ค่าเช่าขาด
"อย่าคาดหวังอะไรจากใคร
สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ตัวเราเอง
อยู่ที่การดำเนินชีวิต"
พักสายตาเถอะนะคนดีหลับลงตรงนี้ที่ที่มีแต่เราสองคน ได้เวลาพักของเราสองตายายเสียทีหลักจากที่ของเราสองคนที่ซื้อมานานแสนนานสามารถนำไปให้เช่ามีรายได้งอกเงยมาทำให้มีความหวังว่าจะได้สุขสบายในยามเกษียณ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามีรายได้แล้วต้องมีภาษีมากวนใจด้วย ป้าได้แต่ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวเพราะมีหลานปราบที่ขยันหมั่นเขียนบทความเรื่องภาษีมาอ่านแบบเพลินๆ บางครั้งก็อดสงสารผู้ที่ทรมานเพราะพิษภาษีจากความผิดพลาดไม่ได้ สุดท้ายมันมาเกิดกับตัวเองเลยต้องหันมาซบไหล่ปราบพร้อมส่งเสียงกระซิบเบาๆ ว่า
ป้านำอาคารพาณิชย์ที่ซื้อไว้นานแล้วออกให้เช่า คนเช่านำไปเปิดเป็นคลีนิคสถานพยาบาลจะมีรายได้มากหรือน้อยป้าไม่รู้ ป้ารู้แต่ว่าให้เช่าเดือนละ 34,000 บาท แต่เวลาได้รับเงินจริงเหลือแค่ 32,300 บาท เค้าบอกว่าส่วนที่ขาดไปคือภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เค้ามีหน้าที่หักและนำส่งให้กับคุณสรรพ์ ตอนแรกป้าว่าจะเถียงแต่พอเค้าเอ่ยชื่อคุณสรรพ์มาป้าจำได้แม่นว่ายุ่งกับใครก็ได้ กล้ากับใครก็ทำไป แต่อย่าได้หือได้อือกับคุณสรรพ์ป้าก็เลยได้แต่นิ่ง แต่พอคนเช่าบอกให้ป้าออกใบเสร็จรับเงินให้ป้าก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ เพราะชีวิตนี้รู้จักแต่ใบขับขี่เลยต้องทำนิ่งไว้ไม่ให้เค้ารู้ว่าเราไม่รู้ ป้าเลยอยากถามปราบว่าเราต้องออกใบเสร็จรับเงินอย่างไรเพราะค่าเช่ากับเงินที่รับไม่เท่ากัน
ใบเสร็จรับเงิน
ระบุยอดเงินตามค่าเช่าตามสัญญาเช่า
คุณป้าให้เช่าและตกลงค่าเช่ากันเดือนละ 34,000 บาท เมื่อคุณป้าได้รับเงินคุณป้าจะต้องจัดทำใบเสร็จรับเงินระบุจำนวนเงินค่าเช่า 34,000 บาทตามจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ในสัญญาเช่า ส่วนเงินที่ได้รับ 32,300 บาท จะถูกชดเชยด้วยหนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย จำนวน 1,700 บาทที่ผู้เช่าจะต้องส่งมอบให้หากคุณป้าได้เงิน และได้รับหนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่ายรวมยอดได้ 34,000 บาทก็ไม่มีประเด็นอะไรต้องน่ากังวล
ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่ายมากกว่า
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องชำระ
ขอคืนภาษีที่ถูกหักไว้เกินได้
ยอดเงิน 1,700 บาทที่ขาดไป ผู้เช่าจะต้องนำไปเซ่นสังเวยให้กับคุณสรรพ์ โดยคุณสรรพ์จะบันทึกบัญชีไว้ว่าได้รับภาษีล่วงหน้าจากคุณป้า พอปลายปีคุณป้านำรายได้จากการให้เช่าไปยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหักรายจ่ายหักค่าลดหย่อนตามกฎกติกามารยาทที่คุณสรรพ์กำหนด หากพบว่าถูกหักภาษีไว้มากกว่าที่ต้องเสียก็ทำเรื่องขอคืนภาษีได้ (ถ้าแน่จริง)
เดี๋ยวก่อนนะป้าไม่ได้คิดเลยเถิด เอ๊ย!ไม่ได้คิดไกลไปขนาดจะไปขอคืนภาษงภาษีอะไรนั่นหรอก นึกภาพลุงกับป้าไปยืนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เอ๊ย!เล่าเรื่องให้คุณสรรพ์แล้วหดหู่ แค่คิดว่ามีเงินค่าเช่าเก็บไว้ใช้กินตอนชราภาษงภาษีไม่อยากไปยุ่งไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรเลย ป้ายังทำแบบนี้ได้ใช่ไหมลูกเอ๊ย
คำขอของป้าเป็นอะไรที่เข้าใจได้แต่จะให้ตามใจคงทำไม่ได้ เพราะผู้เช่าได้หักภาษี ณ ที่จ่าย นำส่งภาษีให้คุณสรรพ์เรียบร้อย ตอนนี้เท่ากับว่าข้อมูลรายได้ของคุณป้าอยู่ในเงื้อมมือคุณสรรพ์ไปแล้วหากปลายปีไม่ไปยื่นสารภาพบาปว่ามีรายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ด้วยแบบ ภงด. 90 มีโอกาสถูกเชิญไปจิบน้ำชายามบ่าย เพื่อให้ชี้แจงข้อมูลอย่างแน่นอน
เรื่องการจัดทำใบเสร็จรับเงิน, เงินที่หายไปคงได้รับการเคลียร์แล้วป้ากับลุงน่าจะไปทำได้อย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องหนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่ายก็เก็บเป็นหลักฐานให้ดีเวลาที่ยื่นแบบภงด. 90 จะได้มีหลักฐานว่าเสียภาษีล่วงหน้าไปแล้วนำมาหักหรือขอคืนตอนยื่นแบบฯ ได้ แต่อย่าคิดหลบอย่าคิดหนีเด็ดขาดเพราะคุณสรรพ์น่าจะกำหวายรอหวดไว้แล้ว เรื่องการยื่นแบบเสียภาษียังมีประเด็นที่คุณป้ากับคุณลุงต้องเคลียร์กันอีกยกว่าจะยื่นในนามคุณป้า, คุณลุง หรือแบ่งคนละครึ่งเพื่อนำไปเสียภาษี ซี่งมีผลทำให้ภาษีที่ต้องจ่ายจะมากหรือน้อยจะแยกไปไว้อีกเรื่องตอนนี้ดูอาการคุณป้าที่อ่านไปหาวไปน่าจะได้เวลานอนกลางวันแล้ว หากอธิบายมากไปกว่านี้จะได้ปลายแล้วลืมต้น
รู้ก่อนลุย ! |
|
|
คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 ข้อ 6 ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้จ่ายค่าเช่าหรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจากการให้เช่าทรัพย์สิน ตามมาตรา 40(5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ไม่รวมถึงค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้รับซึ่งเป็น (1) ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หักภาษี ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 5.0
#เช่าอสังหาริมทรัพย์ #เช่าอาคารพาณิชย์ #สัญญาเช่า #ภาษีเงินได้หักณ ที่จ่าย #บุคคลธรรมดา #ใบเสร็จรับเงิน #ภงด.90 #หักรายจ่ายเป็นการเหมา #หักรายจ่ายตามความจำเป็นและสมควร #เงินได้สามีภรรยา #อากรแสตมป์ |