เงินเยอะหักเยอะ

"อย่าทุกข์เพราะยอมแพ้

อย่าอ่อนแอเพราะสิ้นหวัง

อย่าท้อถอยเพราะไร้พลัง

อย่าหยุดยั้งถ้ายังมีลมหายใจ"

            ก๊อกก๊อกก๊อก เปิดประตูเปิดออกดูเห็นใครมา คุณสรรพ์นั่นไงที่มายืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับเอกสารการรับเงินเข้าบัญชีทุกบัญชีทุกรายการ พร้อมเอ่ยปากบอกว่า รายรับที่เข้าบัญชีทั้งหมดอย่าลืมนำไปยื่นเสียภาษีด้วยนะ กล่าวเสร็จพร้อมกับเดินจากไปทิ้งให้หนูยืนงงในดงภาษี ไม่รู้ว่าจะถามใครถามว่าอะไรเพราะเคยแต่ Live สดใน FB, TIKTOK เพื่อขายสินค้าให้ลูกค้า F พร้อมโอนเงินก่อนส่ง รวมแล้วรายได้ที่คุณสรรพ์ยื่นมาให้ดูน่าจะมีประมาณ 3 ล้านบาทได้ ที่ผ่านมาซื้อสินค้ามาขายมีแต่โอนผ่าน app หลักฐานก็มีแค่บิลเงินสด คุณสรรพ์มีพูดก่อนจากว่า ภาษีน่าจะหลายแสน แต่หนูไม่ได้มีกำไรมากมายขนาดนั้น ทำอย่างไรดีสวรรค์มีตาฟ้ามีใจช่วยหาทางออกให้ด้วย

            หากนั่งอมทุกข์สวดมนต์ภาวนาให้ฟ้าให้สวรรค์ช่วยหาทางออกคงไม่น่าจะรอด เพราะคุณสรรพ์ใช้ AI ในการตรวจจับมานาน หากเราจะใช้คลื่นพลังบุญ อู๊ดอู๊ด..ก็น่าจะไม่รอดเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังยุ่งอยู่กับพี่หนุ่มของเราอาการสาหัสเหมือนกันงานนี้ แค่รู้ว่าเรามีรายได้อะไรหักรายจ่ายอย่างไรเราก็จะรู้แล้วว่าควรหนีควรจ่ายหรือไม่มีไม่หนีไม่จ่าย

รายได้ในการคำนวณภาษีมี 8 ประเภท

รายได้จากการซื้อมาขายไปเป็นเงินได้ประเภทที่ 8

            ใครไม่ได้ขายสินค้าก็ต้องหาเจอก่อนว่า เงินได้ของเราตกบาปเคราะห์ เอ๊ย!ตกอยู่ในประเภทที่เท่าไหร่ เพราะแต่ละประเภทคุณสรรพ์กำหนดวิธีการหักค่าใช้จ่ายไว้ แตกต่างกันหักมากหักน้อยแล้วแต่บาปกรรมที่ทำกันมา แฮ่..แล้วแต่ว่ามีต้นทุนในการทำธุรกิจต่างกันมากแค่ไหน การขายสินค้าไม่ว่าจะ Online, Offline, ใต้ดิน, บนดิน สามารถเลือกหักรายจ่ายได้ 2 แบบ

หักรายจ่ายเป็นการเหมา 60% ของรายได้

ไม่ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่ามีรายจ่ายเท่าไหร่

หักรายจ่ายตามความจำเป็นและสมควร

ต้องมีหลักฐานใบเสร็จรับเงินประกอบ

หากเป็นทรัพย์สินที่อายุการใช้งานเกิน 1 ปี

ต้องนำมาคำนวณหักเป็นค่าเสื่อมราคาตามอายุการใช้งาน

            ง่ายแค่นี้เองกับการคำนวณภาษีคุณสรรพ์ให้เลือกเรา ก็ต้องมาดูก่อนว่าจะเลือกแบบไหน หากเราคิดว่าต้นทุนในการทำธุรกิจของเราไม่ว่าต้นทุนสินค้าที่ซื้อมาขาย, เงินเดือนค่าแรงพนักงาน, ค่าขนส่ง, ค่าโฆษณา มันเกินกว่า 60% ดีไม่ดีทะลุไป 80 – 90 % แบบนี้ก็เลือกเลยว่าขอหักรายจ่ายตามความจำเป็นและสมควร แต่เน้นย้ำอีกครั้งว่าต้องมีหลักฐานพิสูจน์ว่าได้จ่ายชำระเงินค่าใช้จ่ายเหล่านั้นจริง เช่นใบเสร็จรับเงิน, หลักฐานการโอนเงิน ส่วนที่ไม่มีหลักฐานแม้จะยืนยันเสียงแข็งมีภาพถ่ายเอาเงินใส่ถุงขนมไปวางก็นำมาหักไม่ได้

            ถ้ากำไรสูงต้นทุนต่ำแบบต่ำกว่า 60% ไม่ต้องลังเลเลือกหักรายจ่ายป็นการเหมาไปเลย ซึ่งอาจจะพบว่าแสนสะดวกตอนจัดทำเอกสารแต่อาจจะลำบากตอนเสียภาษีก็ว่ากันไป ยังไม่พอหักรายจ่ายได้แล้วยังไม่พอ คุณสรรพ์เล็งเห็นว่าเราเป็นผู้เป็นคน เอ๊ย! เป็นบุคคลธรรมดาสามารถหักค่าลดหย่อนได้อีกหลากหลาย เช่น

ค่าลดหย่อนผู้มีเงินได้

ค่าลดหย่อนคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้

ค่าลดหย่อนบุตร

ค่าลดหย่อนเบี้ยประกัน

เงินลงทุนกองทุน RFM, SSF

อื่นๆ อีกมากมาย

            เราก็ต้องหยิบมาดูว่ามีอะไรบ้างและจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้หักลดหย่อนได้มาก เพราะจะได้ทำให้กำไรหรือรายได้พึงประเมินสุทธิลดลงให้มากที่สุด เพื่อเสียภาษีน้อยที่สุดแบบชาญฉลาด หักแล้วหักอีกไม่รู้กี่เด้งน่าจะทำให้ภาษีที่ต้องชำระลดลงไปได้มากพอสมควรลองไปคำนวณดู

            แต่เดี๋ยวก่อนเพียงคุณมารู้เอาตอนนี้ คุณอาจจะต้องพบว่าอาการของคุณเข้าขั้นสาหัสเลยทีเดียว เพราะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีวิธีการในการเสียภาษีตามที่อธิบายมายืดยาวทำให้อาจะบรรเทาพิษภาษีลงได้บ้าง แล้วแต่บุญกรรมเอ๊ยหลักฐานที่มีและวิธีที่เลือกสียภาษี แต่การที่คุณพี่มีรายได้วิ่งทะลุเส้นแบ่งดินแดน 1.8 ล้านบาทไปไกล ทำให้คุณพี่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วันนับจากวันที่รายได้เกินอีกต่างหากเมื่อไม่จดก็มีแต่เจ็บเพราะรายได้ส่วนที่เกิน 1.8 ล้านบาทต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% พร้อมเบี้ยปรับ 2 เท่า แต่เจรจาดีพูดจาไพเราะคุณสรรพ์อาจลดเบี้ยปรับให้ได้อันนี้ เจ็บกว่าภาษีเงินได้เยอะลองแวะไปหาปังคุงและคุณพี่ หรือไม่ก็น้องเชื่อมให้ช่วยปัดเป่าหรือเชื่อมต่อกับคุณสรรพ์ดู ไม่รู้จะหนักกว่าเดิมไหม