ที่แรงภาษีแพง
ถ้าเหนื่อยเกินไปหยุดพักบ้างก็ได้
ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
ควรให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่าใคร
และไม่จำเป็นต้องแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว
เศรษฐกิจขาขึ้นทั่วโลกแบบว่าขาขึ้นมาก่ายหน้าผากจนหน้าผากเถิกร่นไปหมดทำเอาหนุ่มวัย 30 กว่าอย่างผมดูมีสง่าราศีเหมือนคนอายุ 60 เข้าไปทุกที แค่เศรษฐกิจพุ่งขึ้นสู่เมรุก็หนักแล้วยังโดนภาษีมากระหน่ำซ้ำเติมเข้าไปอีก ปีก่อนหน้ายอมเสียภาษีไปโดยไม่อิดออดเพราะรู้ดีว่าภาษีที่จ่ายไปจะนำไปทำนุบำรุงประเทศชาติไม่มีขาดตกหล่น ไม่มีเงินทองไม่มีข้าวถุงทองหมักบ่ม 10 ปีมาจำหน่าย เพราะถ้ามีต้องจับได้มีหลักฐานพิสูจน์ พอมาปีนี้ทุกอย่างเหมือนเดิมบ้านก็หลังเดิมเพิ่มเติมคือทรุดโทรมเพราะยังไม่มีเงินมาซ่อมแซม ส่วนพนักงานและรายได้ไม่ต้องพูดถึงลดลงกว่าเดิมเกือบ 50% แต่ภาษีกลับพุ่งพรวดแซงหน้าทุกสรรพสิ่งไปแล้ว แบบนี้เราจะทำอะไรได้บ้างเป็นข้อความที่ถูกส่งมาราวกับว่า ปราบจะเสกภาษีให้เข้าท้องหรือออกจากร่างได้ตลอดเวลา
คำถามมาแค่นี้ทำเอาจนใจพูดไม่ออกเลยไม่รู้ว่าเป็นภาษีตัวไหน เพราะบ้านเรามีภาษีที่เกี่ยวข้องกับเราในฐานะผู้มีเงินได้เป็นสิบตัว แต่จากข้อความที่พูดถึงเรื่องบ้าน ขอเดาเอาว่าคงเป็นเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งถ้าว่าไปแล้วมันก็ออกมาควักเงินในกระเป๋าเราหลายปีแล้ว เพียงแต่ปีก่อนพี่เค้ากลัวเราจะไม่มีเงินจ่ายภาษีกลายเป็นลูกหนี้ภาษีที่ต้องมาไล่ตามจัดเก็บ เค้าเลยทั้งยกเว้นทั้งลดหย่อนให้ประดุจดั่งโปรโมชั่นช่วงเทศกาลปีใหม่ทำให้ตอนที่ควักกระเป๋าจ่ายมันก็ไม่รู้ตัว พอมาตอนนี้ปรับเข้าสู่ภาวะปกติทำให้เราในฐานะผู้เสียภาษีรู้สึกเหมือนกบกำลังจะโดนต้ม แต่จะโดดออกจากหม้อก็ทำไม่ได้ เพราะทุกฝ่ายทุกส่วนปิดฝาหม้อเรียบร้อยหุหุ
ที่ดินเกษตรกรรม จัดเก็บ 0.01-0.1%
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยจัดเก็บ 0.02-0.1%
ที่ดินอื่นๆ เช่น การพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม จัดเก็บ 0.3-0.7%
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์จัดเก็บ 0.3-0.7%
คุณพี่เค้าก็ประกาศมาตั้งนานแล้วว่าจะเก็บจากอะไรอัตราเท่าไหร่เพียงแต่ปีก่อนหน้าเค้าทั้งยกเว้น และลดหย่อนให้ทำให้ไม่รู้สึกกระทบกระเทือน หลายคนยังแอบดีใจเมื่อไปเทียบกับภาษีโรงเรือนและบำรุงท้องที่แล้วรู้สึกว่าเสียภาษีต่ำกว่าเยอะ ประหยัดได้แยะ ขอให้เป็นแบบนี้ไปนานเท่านั้น
ปี 2563 – 2565 เก็บ 10% ของภาษีที่จ่าย
ปี 2566 เก็บ 85% ของจำนวนภาษีที่จ่าย
ย่างเข้าเดือนหกฝนกำต๊กพรำๆ แฮ่..ผิดเรื่องอินกับบรรยากาศฝนตกยามเช้า ท่ามกลางเมฆหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งราวกับจะมาทักทายให้หายซึมเศร้า เพราะตอนนี้หมดช่วงโปรโมชั่นแล้วคุณพี่เค้าเลยประกาศชักธงรบ เก็บภาษีเต็มอัตราศึกคือ 100% ไม่มีลดไม่มีหย่อน ซึ่งลำพังการปรับภาษีขึ้นก็เป็นอีกเรื่องนึงแต่ที่คุณพี่รู้สึกว่าเสียภาษีหนักมากคงเป็นเพราะถึงฤดูกาลเลือกตั้ง เอ๊ย ถึงเวลาปรับราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแล้วโดยปีนี้ภาพรวมทั่วประเทศปรับราคาประเมินที่ดินขึ้น 8% พอราคาประเมินปรับก็ไปกระทบกระเทือนภาษีที่ต้องจ่ายด้วย เพราะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจัดเก็บจาก
ราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง
ประเภทการใช้งาน
ประเภทการใช้งานเหมือนเดิม ราคาประเมินสูงขึ้น อัตราภาษีเท่าเดิมแต่เสียมากกว่าเดิมเพราะไม่มีการลดหย่อนแล้ว ทำให้คุณพี่เลยต้องมานั่งมองบนกับภาษีที่พุ่งปรี๊ดนั่นเอง ปีก่อนประเมินประเภทการใช้งานอย่างไรคงไม่มีใครโต้แย้ง เพราะภาษีที่ต้องควักจ่ายคงแตกต่างกันไม่มาก แต่พอปีนี้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติคงต้องมาพิจารณาทบทวนกันบ้าง เช่นหากอาคารของพี่ใช้ประโยชน์ 2 ประเภทคือ ใช้เป็นสำนักงานสำหรับประกอบธุรกิจแบบนี้ ถือเป็นการใช้เพื่อประโยชน์อื่นหรือการพาณิชย์ก็ต้องเสียภาษีอัตรานึง พื้นที่อีกส่วนหนึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคุณพี่และครอบครับ ถือเป็นใช้ประโยชน์เพื่ออยู่อาศัยแบบนี้ก็จะเสียภาษีอีกอัตรานึงซึ่งต่ำกว่า งานนี้ลองจัดสรรพื้นที่ทำรายละเอียดภาพถ่ายประกอบให้ครบถ้วนนำไปเสนอหน้า แฮ่นำไปชี้แจงให้เจ้าหน้าที่รับทราบเพื่อปรับเปลี่ยนประเภทการใช้งานให้ถูกต้องอาจจะทำให้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลดลงได้บ้างไม่มากก็น้อย
เชื่อว่าหลายคนคงอดคิดไม่ได้ว่าบ้านเราหรือสำนักงานเรา ก็อยู่ที่เดิมไม่ได้นำไปขายไม่ได้นำไปให้เช่าเพื่อทำกำไรเข้ากระเป๋า วันดีคืนดีความเจริญมาเยือนราคาที่ดินปรับขึ้น แต่เราก็ไม่ได้รวยขึ้นเพราะต้องใช้เป็นที่พักอาศัยจะขายก็อาจจะขายลำบากเพราะอยู่ในซอกหลืบความเจริญ นายทุนทำคอนโดบ้านจัดสรรไม่เหลียวมอง แต่กลับต้องเสียภาษีอัตราเร่งสูงปรี๊ดเหนื่อยใจไม่ใช้น้อย ดีนะว่าราคาทองช่วงนี้พุ่งสูงปรี๊ดพอให้สบายใจได้บ้างว่า อย่างน้อยถ้าจำเป็นก็พอจะนำไปขายเพื่อมาชำระภาษีได้ คิดมาถึงตอนนี้นึกขึ้นได้ว่าเคยมีทองตั้งแต่ 7,000 บาทแต่ขายนำเงินมาหมุนเวียนในช่วงโควิดไปหมดเรียบร้อยคิดแล้วเศร้า ขอไปยกจอกย้อมใจสัมพันธไมตรีต่อดีกว่า เอ๊า..กรึ๊ปกะละลึบกรึ๊ปกรึ๊ป
#ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง #ที่ดินเพื่อการเกษตร #บ้านเพื่ออยู่อาศัยหลักแรก #บ้านเพื่ออยู่อาศัยหลังรอง #ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ #ที่ดินรกร้างว่างเปล่า |