กรรมติดล้อ

"ความสำเร็จเกิดจากความยากลำบาก

ไม่มีความสำเร็จใดตกมาจากฟากฟ้า

ถ้าทำในสิ่งที่เคยทำจะได้ในสิ่งที่เคยได้

แต่ถ้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำจะได้ในสิ่งที่ยังไม่เคยได้"

            เจอแล้วครับ ยิ่งขุดยิ่งพบยิ่งหาก็ยิ่งเจอปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรมเพราะความไม่รู้ในอดีต ทำให้เกิดกองลูกหนี้เงินให้กู้ยืมกรรมการกองใหญ่ที่ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็คงใช้ไม่หมดเพราะถึงล้างบางทรชน แฮ่ ล้างของเก่าได้หมดของใหม่ก็จะงอกตามมาอยู่ดีเพราะไม่ได้ตัดที่รากถอนที่โคน คนจริงมีแค้นต้องชำระ 10 ปีก็ไม่สายแต่ถ้าผมไม่รีบเคลียร์ปล่อยผ่านไปอีก 10 ปีสายแน่นอน เพราะตอนนี้ก็ใกล้จะบ่ายคล้อยแล้วฝันในการนำบริษัทเข้าตลาดมีหวังต้องรอตกเป็นมรดกให้ลูกหลานทำต่อแน่นอน

            รถครับรถ เรื่องคือผมนำรถยนต์ส่วนตัวมาให้บริษัทใช้มานานแสนนาน จนตอนนี้ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนรถใหม่แล้ว แต่จนใจที่ซ้อยังไม่อนุมัติบอกว่าซ่อมได้อยู่ให้ใช้ไปก่อน เคลียร์ลูกหนี้เงินกู้ยืมให้หมดค่อยให้บริษัทไปซื้อเฮ้อ ที่ผ่านมาผมนำรถยนต์มาให้บริษัทใช้ น้องชีบอกว่ารถยนต์ก็เป็นของผม เวลาจ่ายค่าน้ำมัน, ค่าซ่อม, ประกัน, ต่อทะเบียน ถือเป็นเรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบ เพราะรถยนต์เป็นชื่อของผมไม่ใช่ชื่อของบริษัท เป็นรายจ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการนำมาบันทึกเป็นรายจ่ายไม่ได้ ดังนั้นเวลาเฮียเบิกเงินไปใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ก็ต้องถือว่าเฮียยืมเงินไปใช้น้องชีว่าซ่าน

            รถผมก็จริงแต่ใช้ในนามบริษัทล้านเปอร์เซ็นต์ ใช้งานเสร็จรถก็จอดอยู่หน้าสำนักงานไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัวเลย เวลาจะไปเที่ยวกับเพื่อนผมก็ใช้ Grab หรือไม่ก็ให้เพื่อนมารับตามนโยบายเมาไม่ขับขยับไม่ได้เพราะนอนอยู่หน้าผับ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ก็ควรนำมาเบิกและหักเป็นรายจ่ายได้หรือเปล่าครับอาจารย์หาทางช่วยผมหน่อยไม่อย่างนั้นเคลียร์หนี้เดิมหมด ก็ต้องมาเคลียร์หนี้ใหม่ถือว่า mission incomplete ยังทำเรื่องจ่ายค่าที่ปรึกษาไม่ได้

รถยนต์ของกรรมการ

หากพิสูจน์ได้ว่านำมาใช้ในกิจการงานของบริษัท

 นำรายจ่ายที่เกี่ยวข้องมาหักเป็นรายจ่ายได้

            ซ้อจะใจร้ายกับเฮียหรือเปล่าปราบไม่รู้แต่ที่แน่นอนคือคุณสรรพ์ไม่ใจร้ายกับใคร เพราะคุณสรรพ์เข้าใจหัวอก SME’s ดีว่า การจะลงทุนอะไรสักอย่างแม้จะอยากได้สักปานไหน มันกระทบกับความอยู่รอดของกิจการและกระทบกับภาษีที่จะจัดเก็บได้ในอนาคตยิ่งยุคที่ตลาดหุ้นตกกระจาย กองทุนที่เคยแยกตัวออกมาโดดเด่น ยามหุ้นตกกลับกอดคอพร้อมใจ Hard Landing ไปด้วยกัน การจะซื้อรถยนต์ เพื่อนำมาใช้งานในกิจการเงินที่มีก็อาจจะยังไม่เพียงพอในการนำไปจ่ายชำระ หันซ้ายหันขวาเห็นรถยนต์ของกรรมการมีหลายคันจอดนิ่งอยู่ หยิบนำมาใช้สักสองสามคันคุณสรรพ์เข้าใจได้

            เมื่อเข้าใจ คุณสรรพ์ก็เปิดทางให้ว่าหากรถยนต์ส่วนตัวของกรรมการนำมาใช้ในกิจการของบริษัทจริง รายจ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน, ค่าซ่อม, ประกัน, ต่อทะเบียน ฯลฯ แต่ย้ำนะว่าต้องใช้งานในกิจการ 100% ถ้ามีปนเปื้อนใช้ส่วนตัวด้วยแบบนี้ต้องแยกให้ชัดเจนว่าส่วนไหนใช้งานของบริษัทก็นำมาหักเป็นรายจ่ายของกิจการได้ แต่ถ้ามีการนำไปใช้ส่วนตัวก็ห้ามเบิกและห้ามนำมาหักเป็นรายจ่ายของกิจการไปคุยกับน้องชีแยกรายการให้ดี เมื่อคุณสรรพ์เปิดทางให้แล้วฝั่งเราก็ต้องทำเอกสารประกอบให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำการประชุมผู้ถือหุ้นให้อนุมัติการนำรถยนต์ส่วนตัวของกรรมการมาใช้ในกิจการ ให้บริษัทรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด จากนั้นก็มาทำสัญญาอนุญาตให้ใช้รถยนต์ระบุให้ชัดเจนว่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเช่นค่าประกันภัย, ค่าต่อทะเบียนรถยนต์, ค่าซ่อมบำรุงรักษา, ค่าน้ำมัน บริษัทเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เวลาเฮียนำรถไปใช้งานไปพบลูกค้า, ไปประชุม เวลาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำมัน, ซ่อมบำรุงก็ขอใบเสร็จรับเงินระบุชื่อ ที่อยู่ เลขผู้เสียภาษีของบริษัทให้ครบถ้วนถูกต้องและก็นำมาส่งให้น้องชี แค่นี้ก็บันทึกเป็นรายจ่ายได้แล้ว