อบรมหักสองเท่า
เรียน นายภาษี
รบกวนถามคำถามครับ
ที่ว่าบริษัทส่งคนเข้าสัมมนาแล้วหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า
<!--[if !supportLists]-->1. ให้ทุนคนอื่นไปสัมมนาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ไหมครับ
<!--[if !supportLists]-->2. ให้ทุนคนอื่นหรือพนักงานไปเรียน ป.ตรี ป.โท หรือ ป.เอก หักเป็นค่าใช้จ่ายได้ไหมครับ
<!--[if !supportLists]-->3. มีเงื่อนไขอะไรบ้างในการส่งคนเข้าเรียน หรืออบรม จึงนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ครับ
<!--[if !supportLists]-->4. ผู้ได้ทุนการศึกษาต้องเสียภาษีอะไรไหมครับ
<!--[if !supportLists]-->5. ต้องใช้เอกสาร หลักฐานประกอบอะไรบ้างในการหักเป็นค่าใช้จ่ายครับ
<!--[if !supportLists]-->6. ห้างหุ้นส่วนให้ทุนคนอื่น หรือพนักงาน ไปสัมมนาหรือเรียนหักเป็นค่าใช้จ่ายได้เหมือนบริษัทไหมครับ
ด้วยความเคารพ
นายแสนดี
เรียน นายแสนดี
การอบรมที่สามารถหักรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้เพิ่มอีก 1 เท่า จะต้องเป็นการอบรมให้กับบุคลากรของบริษัทเป็นสำคัญ หากให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานไปอบรม ไม่สามารถนำรายจ่ายค่าอบรมดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ สรุปว่าค่าอบรมก็หักเป็นรายจ่ายไม่ได้ และหักเพิ่มอีกเท่าก็ไม่ได้
สำหรับเงื่อนไขในการอบรมที่จะได้รับสิทธิหักเป็นรายจ่ายทางบัญชี และเป็นรายจ่ายทางภาษีได้เพิ่มขึ้น 1 เท่า เป็นดังนี้
<!--[if !supportLists]-->1. ผู้เข้าอบรมต้องเป็นบุคลากร หรือพนักงานของบริษัท
<!--[if !supportLists]-->2. จะต้องเป็นการเข้าอบรมกับสถาบันการศึกษาตามกฎหมาย, สถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่เป็นบริษัท มูลนิธิ สมาคม หรือนิติบุคคลอื่นตามกฎหมาย
<!--[if !supportLists]-->3. หลักสูตรที่เข้าอบรม จะเป็นหลักสูตรอบรมทั่วไป หรือการเรียนในระดับปริญญาต่าง ๆ หากเกี่ยวข้องกับกิจการสามารถหักเป็นรายจ่ายได้
<!--[if !supportLists]-->4. ต้องกำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าอบรม กลับมาทำงานภายหลังการอบรม
<!--[if !supportLists]-->5. ต้องมีใบเสร็จรับเงิน เป็นหลักฐาน
<!--[if !supportLists]-->6. ค่าใช้จ่ายในการอบรมไม่ถือเป็นเงินได้ของพนักงานผู้เข้ารับการอบรม
<!--[if !supportLists]-->7. บริษัท ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือนิติบุคคลตามกฎหมายได้รับสิทธิหักรายจ่ายได้เพิ่มเช่นกัน
รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จาก พระราชกฤษฎีกา 437 มาตรา 4
ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
(1) สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นหรือที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
(2) สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ประกาศกระทรวงการคลัง
ข้อ 3 สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่จะให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องเป็นสถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานเฉพาะที่มีฐานะเป็นมูลนิธิ สมาคม บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ
ข้อ 4 การให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องเป็นการศึกษาหรือฝึกอบรมในประเทศไทยเพื่อพัฒนาคุณภาพ ความรู้ ความสามารถ ทักษะ ฝีมือของลูกจ้างให้สูงขึ้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นนายจ้าง
ข้อ 5 หลักสูตรที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ 3 ใช้ในการ ให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ต้องมีลักษณะ ดังนี้
(1) กรณีสถานศึกษา
(ก) ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการสำหรับการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่าอุดมศึกษา หรือ
(ข) ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา หรือ
(ค) ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการสำหรับโรงเรียนนอกระบบ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือ
(ง) ต้องจัดการฝึกอบรมให้แก่สาธารณชนเป็นการทั่วไป (Public Training) หรือให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกันตามหลักสูตรที่สถานศึกษานั้นๆได้จัดขึ้น
(2) กรณีสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานต้องจัดการฝึกอบรมให้แก่สาธารณชนเป็นการทั่วไป (Public Training) หรือให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน หรือบริษัทหรือห้างหุ้นสวนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจเป็นเครือข่ายกัน เช่น ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ศูนย์บริการซ่อมสินค้า เป็นต้น
ข้อ 6 ค่าใช้จ่ายที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายให้สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ 3 เพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม ประกอบด้วย
(1) ค่าใช้จ่ายการศึกษาที่เป็นค่าเล่าเรียน ค่าลงทะเบียนหรือค่าบำรุง
(2) ค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมที่เป็นค่าธรรมเนียมเข้าอบรมหรือค่าลงทะเบียน
ค่าใช้จ่ายการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึง ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทางเพื่อเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการดูงานในประเทศหรือต่างประเทศตามที่กำหนดในหลักสูตร (ถ้ามี) ที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ 3 เรียกเก็บจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลด้วย
ข้อ 7 ค่าใช้จ่ายตามข้อ 6 ต้องมีใบเสร็จรับเงินของสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ 3 ที่ออกให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายการฝึกอบรม เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
กรณีใบเสร็จรับเงินค่าใช้จ่ายการศึกษาตามวรรคหนึ่งที่ได้ออกให้ลูกจ้างซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นส่งเข้ารับการศึกษา ก็ให้ใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นได้ด้วย
ข้อ 8 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามข้อ 6 โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้ พร้อมแนบรายละเอียดและกำหนดการฝึกอบรมในหลักสูตรนั้นเก็บไว้ ณ สถานประกอบการเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นแสดงต่อเจ้าพนักงาน
ข้อ 9 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องมีการกำหนดเงื่อนไขให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น หลังจากสำเร็จการศึกษาหรือผ่านการฝึกอบรมแล้ว
หวังว่าคำตอบจะเป็นประโยชน์
ด้วยรัก
นายภาษี