การคำนวณเงินได้/เงินเดือนพนักงาน
ตัวอย่างการคำนวณของธุรกิจก่อสร้าง และขนส่งวัสดุก่อสร้าง เป็นรายเดือนดังนี้ค่ะ
กรณี มีฐานเงินเดือน fix (ไม่เกินเกณฑ์ หักภาษี). แต่มีเงินได้ส่วนอื่น (รวมแล้วเกินเกณฑ์ต้องหักภาษีนำส่ง) เช่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน.ค่าเที่ยว (เงินตอบแทนของการขับรถขนส่งเป็นเที่ยวๆ) ค่าเบี้ยเลี้ยง และอื่นๆ จากการทำงานที่รับมอบหมาย
คำถาม: จำนวนฐานเงินได้ที่นำไปคำนวณภาษี คือ จำนวนรวมทั้งหมด หรือต้องแยก และแยกอย่างไรคะเพื่อการหักภาษีที่ต้องนำส่งถูกต้อง และหักครบถ้วนไม่ต้องจ่ายเพิ่มปลายปี
ขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูงคะ
จริงใจ
เรียน คุณจริงใจ
ประเด็นที่สอบถาม ขอให้ข้อมูล เพื่อนำไปประกอบการคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายเงินได้ให้กับพนักงานได้อย่างถูกต้อง สมดังตั้งใจ ซึ่งก่อนนำไปสู่การคำนวณต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนเกี่ยวกับเงินได้ของพนักงานที่ต้องนำมาเสียภาษี ซึ่งขออัญเชิญ เอ๊ย ขออ้างถึงมาตราที่เกี่ยวข้องคือ
มาตรา 40 เงินได้พึงประเมินนั้น คือเงินได้ประเภทต่อไปนี้ รวมตลอดถึงเงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้สำหรับเงินได้ประเภทต่าง ๆ ดังกล่าว ไม่ว่าในทอดใด
(1) เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ เงินค่าเช่าบ้าน เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า เงินที่นายจ้างจ่ายชำระหนี้ใดๆ ซึ่งลูกจ้างมีหน้าที่ต้องชำระ และเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน
จากกฎหมู่ เอ๊ยกฎหมาย มาดูประเด็นเงินได้ที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งสรุปได้ว่า เงินเดือน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน ค่าเที่ยว ต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นเงินได้ของพนักงานที่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ทั้งสิ้น ซึ่งในการคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้ถูกต้องจะต้องแยกเป็น 2 ส่วนคือ
-เงินเดือน ซึ่งปกติแล้ว จะจ่ายจำนวนเท่ากันทุกๆ เดือน
-ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน ค่าเที่ยว ซึ่งจะจ่ายไม่เท่ากันในแต่ละเดือน
การหักภาษี ณ ที่จ่ายให้ถูกต้อง จะต้องคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เฉพาะเงินเดือนก่อน เมื่อคำนวณได้เท่าไหร่แล้วให้บันทึกเป็นข้อมูลไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินเดือนต้องนำเงินเดือนรวมกับค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าตอบแทนอื่นที่จ่ายในแต่ละมารวมเพื่อหา ภาษีเงินได้ทั้งหมด
เมื่อได้ภาษีเงินได้ทั้งหมด ให้นำภาษีเฉพาะเงินเดือนมาหักออก จะได้ภาษีเฉพาะส่วนของค่าตอบแทนอื่น จากนั้นให้นำภาษีสำหรับค่าตอบแทนอื่นไปรวมกับภาษีหัก ณ ที่จ่ายแต่ละเดือน ผลที่ได้คือภาษีหัก ณ ที่จ่ายของแต่ละเดือนซึ่งจะไม่เท่ากัน โดยขอหยิบเอาตัวอย่างการคำนวณแต่ละขั้นมาอธิบายดังนี้
คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายเฉพาะเงินเดือน
เงินเดือน คูณ จำนวนเดือนที่ทำงานในปี XXX
หัก ค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาจ่าย (40 % ไม่เกิน 60,000 บาท) (XXX)
หัก ค่าลดหย่อน (XXX)
เงินได้พึงประเมินสุทธิ XXX
คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (อัตราก้าวหน้า) (3) XXX
หัก ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (1) (XXX)
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (2) = (1) / จำนวนเดือนที่ทำงานในปี XXX
อย่างที่บอกไว้ได้ภาษีหัก ณ ที่จ่ายของเงินเดือนให้ตั้งพักไว้
คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายเฉพาะเงินเดือน และค่าเบี้ยเลี้ยงที่ได้รับ
เงินเดือน คูณ จำนวนเดือนที่ทำงานในปี XXX
บวก ค่า เบี้ยเลี้ยง ค่านายหน้า รายได้อื่น XXX
หัก ค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาจ่าย (40 % ไม่เกิน 60,000 บาท) (XXX)
หัก ค่าลดหย่อน (XXX)
เงินได้พึงประเมินสุทธิ XXX
คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (อัตราก้าวหน้า) (3) XXX
หัก ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เฉพาะส่วนของเงินเดือน (1) (XXX)
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เฉพาะส่วนของค่าเบี้ยเลี้ยง ค่านายหน้า (4) XXX
บวก ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเฉพาะเงินเดือน (2) XXX
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย = (2) + (4) XXX
ยากมั้ย...ไม่ยาก ถามเองตอบเองก็แบบนี้แหละ ลองอ่าน และทดลองคำนวณดูนะครับ แต่เทคนิคง่ายๆ คือ หากฐานภาษีเฉพาะเงินเดือนของพนักงานเท่าไหร่ การคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได้ประเภทอื่น อาจจะหักในอัตราที่เท่ากันไปก่อน เช่นหากคำนวณแล้วอัตราภาษีของพนักงานอยู่ที่ 10% ทุกครั้งที่จ่ายค่าตอบแทนอื่นก็ให้หัก 10% ไป แต่ต้องคอยหมั่นทบทวนรายได้ และภาษีด้วย เพราะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเก็บในอัตราก้าวหน้า หากเงินรวมเกินฐานปัจจุบันไปแล้ว จะต้องเขยิบตามไปด้วย
ตบท้ายด้วยฐานภาษีเพื่อให้นำไปใช้ประกอบการคำนวณดังนี้
ฐานเงินได้ |
อัตราภาษี |
1 – 150,000 |
ยกเว้น |
150,001 – 300,000 |
5 % |
300,001 – 500,000 |
10 % |
500,001 – 750,000 |
15 % |
750,001 – 1,000,000 |
20 % |
1,000,001 – 2,000,000 |
25 % |
2,000,001 – 4,000,000 |
30 % |
4,000,001 เป็นต้นไป |
35 % |
ตบท้ายอีกนิดว่า หากค่าตอบแทนอื่นๆ ที่จ่ายเท่ากับกันทุกเดือน สามารถนำไปรวมกับเงินเดือน และคำนวณภาษีตามวิธีการแรกจะเป็นวิธีที่ง่ายกว่า แต่หากไม่เท่ากันจะต้องคำนวณทั้งสองวิธี และคำนวณทุกเดือน ซึ่งสร้างความวุ่นวายได้พอสมควร แต่ไม่ยากเกินอธิบายหรอกครับ เชื่อมืออยู่แล้ว
หวังว่าคำตอบจะเป็นประโยชน์
ด้วยรัก
นายภาษี