กองทุนพนักงาน

 

 

          สิ้นเดือนอีกแล้ว...จะกินอะไร...ไม่พอยาไส้เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย...เป็นบทเพลงที่แสนดีได้ยินได้ฟังบ่อย ๆ จนแทบจะร้องได้โดยไม่ต้องดูเนื้อเพลง...ซึ่งบรรดานักร้องส่วนใหญ่...หาใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นทีมงานผู้มีพระคุณ...ที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเปลี่ยนหน้ามาร้องให้ฟังแทบจะ 3 เวลาหลังอาหาร

 

          โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือน...ย่างเข้าปลายเดือนที่มักจะเห็นทีมงานเดินไปเดินมา...เหมือนคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง...จะพูดจะจาอะไรก็ออกจะไปในทาง...ไปไหนมาสามวาสองศอก แถมพาลเริ่มจะออกอาการนัยน์ตา...ขวาง...ทำให้เพื่อนร่วมงาน...เริ่มจะกลายเป็น เพื่อนร่วมพาลไปเสียอีก

 

          แสนดีตระหนักในบรรยากาศที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และรู้ดีว่าหากขืนปล่อยทิ้งไว้มีแต่จะก่อให้เกิดปัญหา...แสนดีจึงทำการค้นหาความจริงจนพบว่าในช่วงกลางเดือนเงินทองในกระเป๋ามันเริ่มร่อยหรอลงไปทุกทีทำให้อารมณ์ที่เคยแจ่มใสในตอนต้นเดือน เวลาที่พาแฟนสาว และครอบครัวไปช็อปปิ้ง หรือทานอาหารมื้ออร่อย มันเริ่ม...บูดขึ้นทุกที เพราะกระเป๋าแบนแฟนทิ้งเป็นเหตุ

 

          เพื่อบรรเทาอาการกระเป๋าแบนในช่วงกลางเดือนซึ่งเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นกับทีมงาน แสนดีจึงตัดสินใจจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน...เอ้ยกองทุนแสนดีเหลือทน...เพื่อบรรเทาอาการของโรคดังกล่าว...โดยตั้งใจจะใส่เงินลงทุนประมาณ 1,000,000 บาทเป็นทุนประเดิม และรับสมัครสมาชิกกองทุน...โดยทุก ๆ เดือน สมาชิกจะต้องใส่เงินเข้ามาในกองทุน...เมื่อใดที่กระเป๋าสมาชิกเริ่มส่ออาการว่ากระเป๋ากำลังจะแบน สมาชิกสามารถ...กู้ยืมเงินกองทุนไปใช้ได้โดย ไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งแสนดีเชื่อมันว่าจะบรรเทาเบาบางอาการทรัพย์จางของทีมงานลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

 

          คิดมาถึงตรงนี้...อาการเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผลเก่าทางด้านภาษีอดกำเริบไม่ได้ ทำให้แสนดีต้องหยุดคิด และหันกลับไปทบทวนให้มั่นใจก่อนว่า...เงินสมทบกองทุนจำนวน 1,000,000 บาท...สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ และที่สำคัญการให้กู้ยืมแก่พนักงานผู้มีพระคุณโดยไม่คิดดอกเบี้ยทำได้หรือไม่ เพราะแสนดียังเจ็บไม่รู้ลืม กับเรื่องนี้เพราะ

 

          “ในการโอนทรัพย์สิน ให้บริการหรือให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือดอกเบี้ย หรือมีค่าตอบแทน ค่าบริการหรือดอกเบี้ยต่ำกว่า ราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจค่าตอบแทน ค่าบริการหรือดอกเบี้ยนั้นตามราคาตลาดในวันที่โอน ให้บริการ หรือให้กู้ยืมเงิน...มาตรา 65 ทวิ(4)”

 

           ซึ่งแสนดีจำจนขึ้นใจว่า...หากหาญกล้าให้ใครกู้ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย...ไม่ว่าจะรักใคร่ หรือเสน่หากันสักปานไหน...มีสิทธิถูกคุณสรรพ์...ตามล่าหาดอกเบี้ย มาเป็นรายได้ของผู้ให้กู้ เพื่อนำมาคำนวณภาษีเงินได้...เพื่อเป็นรายได้ของคุณสรรพ์อีกทอดแน่นอน หรือหากจะคิดหลีกเลี่ยงโดยการคิดดอกเบี้ย แต่คิดในอัตราที่ต่ำเตี้ยติดดิน...ก็ยังไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือของคุณสรรพ์...ได้เช่นกัน เพราะ

 

          “กรณีการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในกลุ่ม สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์เป็นเกณฑ์ในการคำนวณหาดอกเบี้ย อันควรจะได้รับจากการให้กู้ยืมเงิน ดั้งนั้น หากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทประจำของธนาคารพาณิชย์ การคิดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือว่าไม่มีเหตุอันสมควร...(กค.0811/4078: 17 พฤษภาคม 2545)”


          “กรณีที่บริษัท ให้พนักงานกู้ยืมเงิน โดยไม่มีระเบียบเกี่ยวกับเงินกองทุนสะสมพนักงาน หรือกองทุนอื่นตาม 2.1 หรือกรณีที่บริษัทให้พนักงานของบริษัทในเครือเดียวกัน หรือพนักงานของบริษัทอื่นกู้ยืมเงิน ถือเป็นการประกอบกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 (5) และกรณีที่บริษัทให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย หรือมีดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจหน้าที่ กำหนดดอกเบี้ยตามราคาตลาดได้ตามมาตรา 91/16(6)...(กค.0811/16254 : พศจิกายน 2540)”

 

          แสนดี...พอจะเห็นแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์อยู่บ้าง...เพราะข้อหารือหลังสุดมันสรุปในทำนองว่า หากไม่มีระเบียบเกี่ยวกับเงินกองทุนจะให้กู้ยืมต่ำกว่าตลาดไม่ได้...ถือว่าไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่า...หากมีระเบียบฯ...ย่อมทำได้...แน่นอน...แต่เพื่อให้แน่ใจ แสนดีขอเสียเวลาค้นหาให้แน่ใจก่อนดีกว่า...ซึ่งในที่สุด...แสนดีพบว่า

 

          “ในกรณีที่บริษัทให้สวัสดิการแก่พนักงานของตนในลักษณะของการให้กู้ยืมเงินจากบริษัทได้ใน อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าราคาตลาด ถือได้ว่าเป็นการให้กู้ยืมเงิน โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาตลาดโดย มีเหตุอันสมควร ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ (4)”


          “กรณีบริษัท มีระเบียบเกี่ยวกับเงินกองทุนสะสมพนักงาน หรือทุนอื่นใดเพื่อพนักงาน และบริษัทให้นำเงินกองทุนนี้ออกให้พนักงานที่เป็นสมาชิกกู้ยืมเป็นสวัสดิการ โดยมีดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ให้กู้ยืมนั้นตามสมควร บริษัทไม่ต้องนำดอกเบี้ยนั้น มารวมเป็นรายรับ เพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.26/2534 เรื่องดอกเบี้ย สำหรับกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ตามมาตรา (กค.0811/16254 : 28 พฤศจิกายน 2540)”

 

          สมใจอยากไป 1 ขั้นเพราะเด็ก ๆ ได้เงินไปใช้...เสียดอกต่ำ...แถมแสนดีไม่ต้องโดนประเมินรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มเหมือนที่ผ่านมา หนำซ้ำยังไม่ต้องนำดอกเบี้ยที่ได้รับไปคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอีกต่างหาก งานนี้ไม่ให้กู้เห็นทีจะไม่ได้แล้ว

 

          แต่ก่อนสั่งการใด ๆ ออกไป...แสนดีพลันนึกขึ้นได้ว่า...เจตนารมณ์ประการที่สองคือการนำเงินของบริษัทฯ มาใส่เป็นเงินประเดิม หรือเงินสมทบกองทุน...จะสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่...ซึ่งยังไม่ทันได้คิด หรือค้นหาคำตอบให้กับตัวเอง พลันปรากฏเสียงที่คุ้นหูตะคอก เอ๊ยตะโกนบอกมาแต่ไกลว่า หักเป็นค่าใช้จ่ายไม่ได้หรอกไม่ต้องคิดมากหรือลังเล คนรอกู้ใจจะขาดอยู่แล้ว และเหมือนว่าคนพูดจะรู้ใจว่าต้องมีหลักฐานจึงจะยอมจำนนให้กู้แต่โดยดี จึงได้ส่งมอบหลักฐานในที่เกิดเหตุให้อ่านได้ความว่า...

 

          “เงินกองทุน เว้นแต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดโดยกฎกระทรวง...ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ...มาตรา 65 ตรี (2)”


          “รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศล เว้นแต่รายจ่ายเพื่อการกุศล สาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณะประโยชน์ ตามที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีให้หักได้ในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ให้หักได้อีกในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ...ไม่ให้หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ...มาตรา 65 ตรี (3)”


         “พนักงานของบริษัท ได้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ขึ้นเพื่อช่วยเหลือสมาชิกด้วยกัน เพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงานอีกรูปแบบหนึ่ง บริษัทจึงสนับสนุนการจัดตั้งสหกรณ์ดังกล่าว โดยจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือ เพื่อสมทบเป็นเงินทุนตั้งต้นให้แก่สหกรณ์ ในรูปของเงินบริจาคหรือให้กู้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ย หรือคิดต่ำกว่าราคาตลาด ดังนี้ เงินบริจาคดังกล่าวถือเป็น รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัวหรือให้โดยเสน่หา ต้องห้ามถือเป็นรายจ่ายตามมาตรา 65 ตรี (3)...(กค.0802/3713 : 7 มีนาคม 2539)”

 

         ได้อย่างเสียอย่า แต่เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทีมงานขออย่าได้ลังเลอนุมัติ และใส่เงินมาโดยไว สำหรับเงิน 1.0 ล้านบาท แม้จะหักเป็นค่าใช้จ่ายไม่ได้ แต่ในอนาคตหากยกเลิกกองทุน และได้รับเงินคืน (หากพนักงาน...ไม่เบี้ยว) ก็ไม่ถือเป็นเงินได้อยู่ดีขอเธออย่าเป็นกังวล ต่อจากนี้ไป...ฉันจะอยู่ดูแลเงิน. แฮ่จะอยู่ดูแลกองทุนเป็นอย่างดี

 

ด้วยรัก

นายภาษี

 

 

NEED SOME BUSINESS SUGESSION?

WE CAN HELP YOU

เราภูมิใจเป็นอย่างมากหากท่านสามารถใช้ประโยชน์ หรือส่งต่อข้อมูลข่าวสารให้เพื่อนนักธุรกิจ นักบัญชี ภาษี และอื่นๆ เพื่อนำไปใช้ และได้ประโยชน์อย่างเต็มที่...อย่างไรก็ตาม สำหรับการถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากบรรดาที่ปรึกษาในการแวะเวียนมาบรรเลงใน msgconsultant.com ประกอบด้วย

We are very proud if you can take advantage or forward the information to the business tax accountants and others to apply and to take full advantage of them. However, knowledge that has been in favor of those that came into play.

Related Site :

บริษัท เอ็มเอสจี คอนซัลแทนท์ จำกัด

149, 151 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
โทร. 02-803-6820, 02-803-6821, 02-803-6822
แฟกซ์ 02-903-0080 ต่อ 6823
Email : info@msgconsultant.com