ค่าเสียหาย...ไม่เสีย VAT
เสร็จจากการแก้ปัญหาเรื่อง...สินค้า...ไม่เป็นไปตามคำ...โม้...เอ้ย คำโฆษณา ซึ่งมีผลทำให้ต้องรับคืนสินค้า...โดยไม่ได้รับชำระราคา...แถมต้องออก...ใบลดหนี้...เพื่อนำไปลดยอดขาย และลดยอดภาษีขาย เพื่อทวงเงิน...ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ชำระไปแล้ว...คืน ซึ่งสร้างความ...วุ่นวายใจให้กับทีมงาน และผู้เกี่ยวข้องได้มากพอสมควร
แต่ยังไม่ทันที่...แสนดี จะได้ค้นหาตัวเพื่อกระทำความผิดที่ทำให้แสนดี...ไม่ได้รับเงินค่าขายสินค้า แถมยังต้องมาเสียเครดิต...ที่สั่งสมมานาน...แสนดีกลับต้องพบกับฝันร้าย และปัญหาให้แก้ไขอีกคราโดยในคราครั้งนี้ แสนดี...ได้รับใบแจ้งหนี้ รูปร่างหน้าตาประหลาด ซึ่งเนื้อหาข้างในระบุ...ทำนองให้แสนดีชดใช้ค่าเสียหาย... จากการที่สินค้าชำรุด ทำให้ผู้ซื้อสินค้า ไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศได้
เมื่อลูกค้า...เรียกค่าเสียหายมา...บุญมี ในฐานะผู้ซื้อสินค้าไปจากแสนดี ก็ต้องโอนความดีความชอบนั้นให้กับแสนดีต่ออีกรอบหนึ่ง โดยค่าความเสียหายที่ลูกค้าเรียกมาก็ไม่มาก...ไม่มายคิดเป็นเงินก็อ่านได้ความว่า...หนึ่งล้านบาทถ้วน และหากแสนดีไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่าย จะส่งมอบเป็นสินค้าที่ไม่ชำรุด...เหมือนครั้งก่อนมาให้...ในจำนวนเงินที่เท่ากัน...ไม่ขัดข้อง โดยใบแจ้งหนี้ระบุรายละเอียดไว้เสร็จสรรพว่า
เงินชดเชยความเสียหายที่สินค้าชำรุด 1,000,000.00 บาท
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 70,000.00 บาท
รวมจำนวนเงิน 1,070,000.00 บาท
หมายเหตุ : สามารถส่งมอบเป็นสินค้าในราคาที่เท่ากันได้
แสนดี...โกรธจนควันออกหู...ที่นอกจากไม่ได้เงิน...สินค้าก็เจ๊งเป็นเศษขยะ แถมยังต้องมาชดใช้ค่าเสียหาย...อีกดอก ทำให้แสนดี...สั่งการให้ตามหาตัว...ผู้ผิด มารับผิดชอบให้ได้ หากไม่มีเงิน จะต้องให้หักเงินเดือน...ทั้งชีวิต...แสนดีก็จะทำ
สิ้นเสียงสั่ง...ไม่นาน พลันปรากฏเงาร่างของใครบางคน...เดินมาหา ซึ่งแสนดีมั่นใจมากว่าน่าจะเป็นผู้โชคดี...ที่ต้องรับภาระหนี้แทน จึงเงยหน้าขึ้น เพื่อเตรียม...อาละวาดให้หายหงุดหงิดหัวใจ...หากแต่เมื่อเงยหน้า...ยังไม่ทันได้อ้าปาก...หัวใจของแสนดี แทบหยุดเต้น และหล่นไปอยู่ที่...ตาตุ่ม แทน เพราะเจ้าของร่างนั้นคือ...จริงใจ...หวานใจ ของแสนดี...นั่นเอง...ซึ่งสร้างความสงสัยเป็นอย่างมากว่า...มาทำไม หรือเธอคือ...แสนดีไม่อยากคิดต่อ
จริงใจ...หยุดฝันของแสนดีด้วยน้ำเสียงหวาน แต่ดุ และหนักแน่น ตามแบบฉบับว่า...จะหาไปทำซากอะไร...ว่าใครทำผิดในตอนนี้ เสียเวลาทำมาหากิต...แสนดีควรโทรไปต่อรองขอ...ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายดีกว่า หรือหากต้องจ่าย...ขอจ่ายเพียงบางส่วน และไม่ขอรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม จะได้หรือไม่ เพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
บุญดี...ไม่รอให้แสนดีเอ่ยปาก...ชิงแทรกขึ้นมาโดยไม่รู้ว่า...โผล่มาได้อย่างไรว่า...ถูกต้องแล้วครับ และหากต้องชำระค่าเสียหาย...ไม่ว่ามากน้อยเพียงใด ขอให้แสนดีชำระเป็นเงินสดดีกว่าชำระด้วยสินค้า เพราะหากชำระค่าเสียหายด้วยสินค้า...แสนดีต้อง...นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้กับคุณสรรพ...อีกดอกหนึ่ง เช่นหากแสนดีส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าจำนวน 1,000,000 บาท งานนี้ ลูกค้าจะได้สินค้าไป 1,000,000 บาท แต่แสนดีต้องนำส่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม 70,000 บาท เพราะการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า...ไม่ว่าจะเรียกเก็บค้าสินค้า หรือไม่ ถือเป็นการ...ขายสินค้า ซึ่งยืนยันด้วย
“ขาย หมายความว่า จำหน่าย จ่าย โอนสินค้า ไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือค่าตอบแทนหรือไม่...มาตรา 77/1 (8)”
“สินค้า หมายความว่า ทรัพย์สินที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ ไม่ว่าจะมีไว้เพื่อขาย เพื่อใช้ หรือเพื่อการใดๆ และให้หมายความรวมถึง ของทุกชนิดที่นำเข้า...มาตรา 77/1 (9)”
แสนดี...เข้าข่าย...โอนสินค้า แม้ไม่เรียกเก็บค่าตอบแทน...แต่ก็ยังต้องนำมูลค่าของสินค้ามาคำนวณหา...ภาษีมูลค่าเพิ่ม...ชัวร์ และต้องทำในทันทีที่...ส่งมอบสินค้าด้วย...เพราะ
“การขายสินค้านอกจากที่อยู่ในบังคับตาม (2)(3)(4) หรือ (5) ให้ความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้า เว้นแต่กรณีที่ได้มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนส่งมอบสินค้า ก็ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อได้มีการกระทำนั้นๆ ด้วย
(ก) โอนกรรมสิทธิ์สินค้า
(ข) ได้รับชำระราคาสินค้า หรือ
(ค) ได้ออกใบกำกับภาษี
ทั้งนี้ โดยให้ความรับผิดเกิดขึ้นตามส่วนของการกระทำนั้นๆ แล้วแต่กรณี”
เป็นข้อความที่...ไม่ได้คิดเอง แต่กำหนดไว้ชัดเจนใน มาตรา 78 (1) แห่งประมวลรัษฎากร โดยบุญดี...ยกตัวอย่าง ที่แม้ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียงกับเรื่องที่เกิดกับ...แสนดี ว่า...
“การที่บริษัทฯ แจกของขวัญให้แก่พนักงานถือเป็นการขายสินค้า ตามมาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จากมูลค่าของขวัญที่นำไปแจกเป็นรางวัล แต่ไม่จำเป็นต้องทำใบกำกับภาษี...(กค. 0811/พ./1161 : 19 สิงหาคม 2545)”
แต่หากแสนดี...เชื่อมั่นในคารม...เอ๊ย ข้อมูลของบุญดี...จ่ายชำระค่าความเสียหายเป็น...เงินสดไปก่อน...โดยยังไม่ต้องไปไล่เบี้ยกับใคร ๆ แสนดีจะประหยัดค่าภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 70,000 บาท...เนื่องจาก...เงิน ไม่ใช่สินค้าที่สามารถซื้อขายกันได้...เมื่อส่งมอบ จึงไม่ต้องเรียกเก็บค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่อย่างใด...ยืนยันด้วย
“บริษัทฯ เรียกเก็บเงินชดใช้จากผู้ผลิตในประเทศ และต่างประเทศ สำหรับรถยนต์ที่มีความเสียหาย อันเนื่องมาจากการผลิตไม่ได้คุณภาพตามขั้นตอนการผลิตรถยนต์ หรือชิ้นส่วนอะไหล่มีความบกพร่อง จำนวนเงินดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นค่าเสียหายจากการขายรถยนต์ มิใช่มูลค่าที่บริษัทฯได้รับจากการขายรถยนต์คืนให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ ตามมาตรา 77/1(8) จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 (กค 0811/พ./3093 ลงวันที่ 18 เมษายน 2545)”
“บริษัท เรียกเก็บเงินค่าชดเชย จากบริษัทในประเทศ และต่างประเทศ เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้มีการถือปฏิบัติเป็นการทั่วไปตามประเพณีทางการค้า เงินชดเชยดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนจากการขายสินค้า หรือให้บริการ บริษัทฯ จึงไม่ต้องนำค่าชดเชยในกรณีนี้มารวมคำนวนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม...(กค. 0811(กม.04)/พ./718 : 18 มิถุนายน 2545)”
แสนดีเข้าใจชัดเจนว่า...จ่ายเป็นเงินประหยัดกว่า...หากแต่อดแปลกใจไม่ได้ว่า...แสนดีสั่งให้หาตัวผู้ทำผิด...แต่เหตุไฉนกลับได้แนวทางการจ่าย...ค่าเสียหายที่ประหยัดแทน...ทั้งที่ยังไม่เคยแพร่งพรายเรื่องถูกปรับให้ใครฟังแต่อย่างใด...สงสัยเกลือจะเป็นหนอน...เงินจะต้องหาย เพราะ...ค่าปรับ แถมจะจับมือใครดม...ไม่ได้...เฮ้อ