เกินได้ไม่โดน

เจริญวิปัสนาแต่ไม่รู้คุณค่าสติ

ช่วยเหลือผู้อื่นแต่ยังต้องการคำชม

กราบไหว้ผู้ใหญ่แต่ยังเย่อหยิ่งถือตัว

ชอบฟังธรรมแต่ไม่เคยทำตาม

ทำแล้วได้อะไร

            สงกรานต์ปีนี้ไปเล่นน้ำที่ไหนก็อดที่จะหนักอกหนักใจไม่ได้ หนูไม่ได้เป็นห่วงสาวและไม่สาวที่มาเล่นน้ำกันหรอกค่ะ แต่หนูอดห่วงตัวเองไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรให้เสียภาษีได้อย่างถูกต้อง รอบที่แล้วผ่านพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้ เพราะประมาณการและชำระภาษีกลางปีไว้สูงกว่าปลายปีเลยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่ต้องโดนเฮียบ่นตั้งแต่หลังกลับจากสงกรานต์จนสงกรานต์รอบใหม่เวียนมาจะบรรจบครบอีกคราแล้ว เฮียบอกว่าแค่..ประมาณการแค่นี้ยังทำไม่ได้แบบนี้ เฮียจะวางใจไปเล่นน้ำสงกรานต์ให้มีความสุขได้อย่างไร แม้จะไม่ต้องเสียเงินเพิ่มจากการประมาณการขาดแต่กลางปีเฮียก็เสียภาษีสูงเกินไปเรียกว่าจ่ายไปก่อนดอกเบี้ยก็ไม่ได้ ดีนะที่ว่าปลายปียังต้องเสียภาษีเลยทำให้พอหักกลบกันได้ เกิดปลายปีเฮียขาดทุนภาษีที่ชำระไว้กลางปีจะทำอย่างไรใครจะเป็นผู้กล้าไปง้างอ้อยออกจากปากช้าง

            ยังไม่รู้วันข้างหน้าว่าจะโลกาภิวัฒน์หรือไม่แล้วใครมันจะไปรู้ว่าอนาคตธุรกิจจะมีกำไรหรือขาดทุน แค่ตัดใจเสียภาษีครึ่งปีก่อนปลายปีค่อยมาเคลียร์ยังมีประเด็นเรื่องเงินเพิ่มมาอีกแบบนี้ใครจะทำได้ถูก ฝากอาจารย์ช่วยทำเรื่องร้องเรียนให้ยกเลิกเรื่องนี้หน่อยได้ไหม แบบว่าไม่ได้เงินดิจิตอลก็ขอเรื่องนี้ตอบแทน หรือไม่ทุกปีหนูจะส่งให้อาจารย์ช่วย X Ray ธุรกิจและประมาณการภาษีไม่ให้คลาดเคลื่อนหน่อยน่าจะดี

            สงกรานต์ก็ไม่ได้ไปเล่นน้ำกับใครที่ไหนได้แต่มานั่งตอบคำถามที่ไม่รู้ว่าทำไมชอบหลั่งไหลมาเฉพาะช่วงเทศกาล แถมยังจะให้รับผิดชอบทั้งไปเจรจาทั้งช่วยทำแบบอีก จะว่าไปแล้วน้องชีลองไปจับเข่าคุยกับเฮียและช่วยกันทำ ช่วยกันเตรียมข้อมูลให้ดี น่าจะลดประเด็นเรื่องการประมาณการขาดได้ในระดับหนึ่งเพราะ

แบบ ภงด. 51 ต้องยื่นภายในเดือนสิงหาคม

(60 วันนับจากวันสิ้นรอบ 6 เดือน)

            น้องชีสามารถสรุปข้อมูลรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิ 7 เดือนมาให้เฮียดู ส่วนเฮียก็แค่นำข้อมูลทางธุรกิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ส.ค.- ธ.ค. มารวม ก็จะทำให้มีข้อมูลรายได้ ต้นทุน และกำไรที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ถ้าร่วมมือร่วมใจกันแบบนี้ไม่ปล่อยให้น้องชีจุดเทียนส่องสว่างในความมืดนั่งคิดตัวเลขกำไรและภาษีปลายปีเอาเอง ปัญหาก็คงจะเบาบางลดข้อโต้แย้งลงได้

            ที่อาจารย์พูดมาหนูลองมาหมดแล้ว เฮียได้แต่บอกว่าก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ ที่สำคัญเรื่องบัญชีกับภาษีมันก็เป็นเรื่องของหนู ถ้าให้เฮียมาทำหนูก็ต้องไปหารายได้มาจ่ายเงินเดือนเพื่อนแทน พูดแบบนี้หนูได้แต่งอนเดินกลับห้องบัญชีมาจุดเทียนเหมือนเดิมเอาเป็นว่าวิธีที่ถูกหนูทำมาหมดแล้วแต่ไม่รับความร่วมมือจากเฮียซึ่งก็คงไม่ต่างจากเพื่อนชีร่วมอาชีพทั้งหลายขอเป็นทางลัดทำให้ไม่โดนปรับน่าจะ work กว่า

            ทางที่ถูกไม่เดิน ชอบเดินทางลัด ซึ่งก็พอจะทำได้แต่ก็ต้องมีผลข้างเคียงที่เฮียก็ต้องยอมรับด้วย งานนี้เหตุอันสมควรที่คุณสรรพ์ยอมรับและใช้กันมาตลอดเวลามีอันต้องถูกหยิบมาใช้ คุณสรรพ์มองว่าการประมาณการขาดไปจะน้อยหรือมากแค่ไหนคุณสรรพ์ยินดีให้อภัยเสมอถ้า

ภาษีที่ชำระไว้ครึ่งปี

สูงกว่าครึ่งหนึ่งของภาษีปีก่อน

            น้องชีจะนั่งเทียนเหมือนเดิมก็ทำไปแต่งานนี้ให้ไปเอา ภงด. 50 ของปีก่อนมาดูว่ามีกำไรและเสียภาษีไว้เท่าไหร่จับหาร 2 พอได้ก็นำไปเป็นฐานกำไรและภาษีในการยื่นแบบภงด. 51 ปีนี้จะนั่งเทียนอย่างไรก็ทำไปแต่ขอให้เสียภาษีครึ่งปีมากกว่าปีก่อนเป็นอันรอด ยกเมฆ เอ๊ย! ยกตัวอย่างเช่น ปีก่อนกำไร 1,500,000 บาทเสียภาษีไว้ 300,000 บาท

ครึ่งหนึ่งของกำไรปีก่อนคือ 750,000 บาท

ครึ่งหนึ่งของภาษีปีก่อนคือ 150,000 บาท

จัดทำแบบ ภงด. 51 ชำระภาษีกลางปี

ให้มากกว่า 150,000 บาท

            เช่นประมาณการกำไรไว้ 2,000,000 บาท เสียภาษี 400,000 บาท ชำระภาษีเงินได้ครึ่งหนึ่งเท่ากับ 200,000 บาทถ้าทำได้แบบนี้ปลายปียืนยิ้มเท่ห์รอไว้กลาย แม้ปลายปีจะมีกำไรจะพุ่งปรี๊ดไปถึง 5,000,000 บาทกำไรจริงเกินประมาณการไป [ (5,000,000 – 3,000,000) / 5,000,000 ] X 100= 40% ไม่ต้องจับยามสามตาก็รู้ว่าประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่าร้อยละ 25% แน่นอน แต่เดี๋ยวก่อน..งานนี้คุณสรรพ์ยืนยิ้มด้วยความเมตตาและเห็นว่ามีความบริสุทธิ์ใจที่จะเสียภาษีโดยไม่หลบเลี่ยง พิสูจน์ได้จากกลางปีเสียภาษีไว้สูงกว่าปีก่อน ถือว่ามีเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่ควรโดนเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่ม เข้ามากล้ำกลายให้ระคายเคืองใจ