แปลงหนี้เป็นทุน

"ถ้าตั้งใจว่าทำได้ แม้หินหนักก็ยกไหว

ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ทรายหนึ่งกำมือก็ยกขึ้นยาก"

            ตื่นๆ มีเรื่องแล้วหนูมีปัญหาจิ๊บๆพอให้ปวดหัวมาถามมั่นใจว่าอาจารย์ต้องตอบคำถามให้หนูได้แน่นอนไม่เสียเวลาเข้าเรื่องเลยละกันนะ เรื่องมีอยู่ว่าเฮียของหนูเปิดบริษัทรับเหมา ก่อนสร้างที่ผ่านมาก็เจริญรุ่งดีอยู่ จ่ายเงินเดือนตรงโบนัสมากพอที่จะให้น้องๆลืมตาอ้าปากได้บ้าง แต่มาช่วงนี้ออกเดินป่าบ่อยหน่อยไม่รู้ว่าโดนอะไรสิงร่างมาจากที่จับอะไรเป็นทอง ตอนนี้หยิบจับอะไรเป็นทองเหลืองหมด จากที่เคยรุ่งเรื่องก็กลายเป็นร่วงแรง ล่าสุดนี้ค้างเงินเดือนพนักงานมา 3 เดือนแล้ว ทั้งผู้รับเหมาและน้องพนักงานต้องระดมทุนกันซื้อมาม่ากับผักมา เพื่อพยุงร่างให้ทำงานต่อไปได้ ระหว่างที่เฮียกำลังไปขอสินเชื่อกับพี่แบ๊งค์ และไประดมทุนกับเพื่อนเฮีย

         หลังจากหายหน้าไปหลายเดือน เฮียกลับมาด้วยร่างกายที่อิดโรยแต่ดวงตายังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความมุ่งมั่นว่ายังสู้ ไม่รอให้ถามเฮียเล่าให้ฟังว่าไปคุยกับใคร ทุกคนก็ให้การตอบรับโครงการในฝันเฮียอย่างดีพี่แบ๊งคพร้อมจะปล่อยกู้ให้เฮียดำรงตำแหน่งเจ้าหนี้แห่งชาติ เพื่อนเฮียก็พร้อมจะมาลงทุนกับเฮีย แต่พอเห็นงบการเงินทุกคนทำหน้านิ่ง พร้อมกับบ่มพึมพำจับใจความได้ว่าขาดทุนเยอะ เจ้าหนี้แยะเกิน ถ้ามาร่วมหัวจมท้ายจะได้เงินคืนเมื่อไหร่ ถ้าเฮียเคลียร์รายการนี้ได้เมื่อไหร่ค่อยมาคุยกัน

         หนูพอจะช่วยเฮียได้ไหม พอมีให้เฮียยืมจักบาทได้บ่อ เอ๊ย! พอจะช่วยเฮียเคลียร์เรื่องนี้ได้ไหม ถ้าพอทำได้เงินจะไหลนองทองจะไหลมา น้องทุกคนจะไม่ต้องกินมาม่าผักต้มอีกต่อไป ช่วยเคลียร์เรื่องขาดทุนกับเรื่องเจ้าหนี้ทั้งหลายให้หน่อย เฮียเคยได้ยินว่าสามารถแปลงหนี้สินเป็นทุนได้เราพอจะทำได้ไหม

        หนูบอกเฮียไปว่าเรื่องขาดทุนสะสมที่มีในช่วงแรก สามารถทำให้มันลดลงได้ ถ้าเฮียทำธุรกิจให้มีกำไรได้อย่างต่อเนื่องประมาณ 10  ปีก็น่าจะทำให้ขาดทุนสะสมหายไปได้ในที่สุดซึ่งน่าจะอธิบายพี่แบ๊งค์กับเพื่อนได้ จะอธิบายต่อแต่เห็นสายตาพิฆาตของเฮีย รู้ได้เลยว่าชะตาใกล้ขาด เลยต้องหาทางลัดเสกให้ขาดทุนสะสมหายไปด่วน เลยต้องบากหน้ามาหาอาจารย์นี่ละ

การล้างผลขาดทุนสะสมแบบพลีชีพคือ ผู้ถือหุ้นทุกคนพร้อมใจกันลดทุน เพื่อนำไปล้างผลขาดทุนสะสม ซึ่งผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับเงินจากการลดทุนคืน แต่จะนำทุนที่ลดลงไปล้างหักล้างกับผลขาดทุนสะสม ทำให้ทุนจดทะเบียนลดลงและผลขาดทุนสะสมลดลง ลองไปหาบทความเรื่องนี้ที่ปราบเคยเขียนไว้มาอ่านน่าจะเห็นภาพ ส่วนเรื่องเจ้าหนี้เงินกู้ยืมกรรมการที่แสดงตัวในงบการเงินของเฮียจะว่าไปแล้วมันก็เกิดจากการที่กิจการขาดทุนมานานเฮียของหนู ก็เลยต้องอัดฉีดเงินอุดหนุนมาต่อเนื่อง ทำให้น้องชีของเฮียต้องบันทึกไว้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ยืมกรรมการ การเสกรายการนี้ให้หายไปสามารถทำได้ไม่ยาก แต่การจะแปลงหนี้เป็นทุนแบบที่เฮียถามมันทำไม่ได้ เพราะพี่แพ่งบอกว่าการชำระเงินค่าหุ้นสามารถชำระได้ 3 แบบ

ชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด

ชำระค่าหุ้นด้วยทรัพย์สิน

ชำระค่าหุ้นด้วยแรงงาน

พี่แพ่งบอกว่าบริษัทมหาชน เค้ามีธรรมาภิบาลมีหน่วยงานที่กำกับมากมายเลยยอมให้ทำ ส่วนบริษัทจำกัดอาจจะมีน้อยกว่าหน่อยเลยยังไม่อยากให้ทำ แต่ทุกคำถามมีคำตอบทุกปัญหาย่อมมีทางออกถ้าเราคิดว่าปัญหามีให้แก้ไม่ได้มีให้กลุ่ม ตอนนี้เราไปทำความเข้าใจเรื่องแปลงหนี้เป็นทุนก่อน จะทำให้เห็นว่าคำตอบก็อยู่ที่ไหน การแปลงหนี้เป็นทุน (debt-to-equity swap) คือธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นเมื่อบริษัทต้องการ

ลดหนี้สินของกิจการโดย

โอนบัญชีหนี้สินไปยังบัญชีทุนของบริษัท

ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้น

หนี้สินของกิจการลดลง

หนี้ก็กลายเป็นทุน จากเจ้าหนี้เงินกู้ยืมก็กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นแทน ทำให้บริษัทไม่ต้องชำระหนี้สินนั้นอีกต่อไป แต่เดี๋ยวก่อนอาจารย์อย่าเพิ่งไปไหนไกล เพราะฟังมาถึงตอนนี้ก็ยังได้ข้อสรุปว่าบริษัทจำกัดแปลงหนี้เป็นทุนไม่ได้ เล่ามาตั้งนานจะเสียค่ากาแฟฟรีไหมคะ

ใจเย็นน้องชีเอ๋ย ก่อนตอบคำถามก็ต้องบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปให้รู้ก่อน ไม่ใช่รู้แค่ปลายเหตุเสร็จแล้วก็ท่องเป็นนกขุนทองหาแก่นหากะพี้ไม่ได้ เมื่อพี่แพ่งไม่ยอมให้ Transform debt to equity แฮ่..ขอภาษาปะกิตซะหน่อย เราก็คืนสู่สามัญ Back to basic กลับไปแก้ปัญหาที่ทางเข้าโดย

จัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน

กำหนดทุนจดทะเบียนให้เท่ากับหนี้สิน

รับชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้น

นำเงินจากการเพิ่มทุนไปชำระหนี้กรรมการ

            ใช้เวลาไปทำเรื่องราวที่กระทรวงพาณิชย์สักนิด ทำเรื่องการโอนเงินไปมาอีกหน่อยเท่านี้ ก็เรียบร้อย ทำบัญชีธุรกิจมาตั้งนานอย่าบอกว่าไม่เข้าใจ ไม่เคยทำเรื่องการเพิ่มทุนและการโอนเงินแบบไม่มีเงินนะ ถ้าตอบว่าไม่รู้..ไม่รู้..ค่าที่ปรึกษารอบนี้ ไม่ใช่กาแฟแก้วเดียวแน่