รายได้ไม่เท่ากัน
อย่าใช้เงินเพื่อซื้อใจคน
อย่าใช้ความอดทนเพื่อซื้อใจใคร
หนูพูดจนปากเปียกปากแฉะ บอกทั้งฝ่ายขายบอกทั้งเฮียว่า รายได้จากการขายสินค้ามันไม่ตรงกันก็ไม่มีใครฟังหนู แถมตอนชำระเงินก็ได้รับเงินไม่ตรงตาม Invoice ที่ขายอีกด้วย พูดมากไปหลายคนก็จะทำมึนบอกได้แค่ว่าไม่รู้ไม่รู้เป็นเรื่องของบัญชี พี่ขายสินค้าได้ส่งสินค้าได้ตามเงื่อนไขลูกค้าชำระเงิน ส่วนพี่ได้รับค่าคอมมิชชั่นที่อยากได้เป็นอันปิดคดี เรื่องอื่นน้องชีไปเคลียร์กันเอาเองพี่ไม่เก่งเรื่องบัญชีแต่เรื่องเงินค่าคอมที่ต้องได้รับพี่ไม่ตกไม่หล่นตามทวงได้ครบไม่ต้องห่วง
จนมาวันนี้ตาขวากระตุก ตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากบ้าน แถมจิ้งจกก็ร้องทัก คิดไว้แล้วว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีแน่ แต่ไม่คิดว่าภัยจะมาเยือนถึง Office แว๊นมอไซค์มาถึงยังไม่ทันได้นั่งพัก น้องชีในสังกัดบอกว่าคุณสรรพ์มานั่งรอตั้งแต่เช้า หนูเชิญให้มานั่งในห้องบัญชี แถมเอาเอกสารมาให้อ่านฆ่าเวลาเรียบร้อย เห็นแวบๆว่าเอกสารที่ให้อ่านน่าจะเป็น Invoice ขายสินค้าของบริษัท ทำเอารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวว่าภัยจะมาเยือนจริงๆ ยังไม่ทันได้ทักทายคุณสรรพ์ท่านบอกว่า วันนี้เวลามีน้อยยังไม่ตรวจนับสินค้าคงเหลือละกัน แต่ขอให้เตรียมเอกสารไปชี้แจงว่า
รายได้ตามแบบงบการเงินและภงด. 50
ไม่ตรงกับรายได้ตามข้อมูลการส่งออก
ส่วนที่แตกต่างนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% หรือเปล่า
หนูจะให้คุณสรรพ์รอเจอเฮียจะได้ช่วยบอกเฮียให้รู้ว่า มีมหันตภัยมาเยือน เผื่อจะช่วยบอกให้ฝ่ายขายเร่งหาข้อมูลมาตอบหน่อย เพราะบอกมานานแล้วแต่ทุกคนเพิกเฉย งานนี้ถึงเวลาต้องเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่ม จะได้ตื่นตัวกันซะที แต่พอคุณสรรพ์บอกว่า ถ้าต้องรออาจจะขอเดินดูสินค้าคงเหลือเพื่อฆ่าเวลา หนูประเมินแล้วได้จะไม่คุ้มเสียเลยต้องอัญเชิญให้กลับไปแบบเร่งด่วน หลังจากต้อนรับขับไล่เรียบร้อย หนูหลับตาปุ๊บก็เห็นหน้าอาจารย์ปั๊บ พยายามสลัดศรีษะขับไล่ความสับสนออกไปเดินไปล้างหน้าล้างตาดื่มกาแฟแก้วโตก็ยังเห็นแต่หน้าอาจารย์กับรอยยิ้มที่อบอุ่น ราวกลับจะปลอบให้สบายใจว่า ไม่ต้องห่วงทุกเรื่องราวมีคำตอบทุกปัญหามีทางออก หนูเลยต้องกลั้นใจส่งคำถามมาให้เพื่อช่วยหาคำตอบ
ขายสินค้าราคา C.I.F.
ฐานภาษีส่งออกใช้ราคา F.O.B.
อธิบายสั้นๆแค่นี้พอจะเห็นสาเหตุของความแตกต่าง จะว่าไปแล้วมันเป็นเรื่องปกติมากที่จะต้องมีความแตกต่างระหว่างการรับรู้รายได้จากการขายและรายได้ตามแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะในการขายเราก็กำหนดราคาเงื่อนไขในการขายที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น F.O.B., C.I.F, C&F ฯลฯ แต่เวลาที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม คุณสรรพ์กำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจนว่าให้ใช้ F.O.B. จะให้ข้อมูลตรงกันก็เป็นไปได้ยาก แต่จากการที่หนูชอบไปชวนเฮียกับฝ่ายขายทะเลาะ เอ๊ย! หาข้อมูลเรื่องนี้มายาวนาน เดาได้ว่าอธิบายต่อให้ชัดเจนน่าจะดีที่สุด ปราบจะได้ไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้า
ราคาขาย C.I.F. เป็นการเสนอขายสินค้าในราคาที่รวมค่าขนส่งและประกันภัยเรียบร้อย แต่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออกจะใช้ราคา F.O.B. ซึ่งเป็นราคาสินค้าบวกภาษีสรรพสามิตบวกค่าธรรมเนียมอื่น เท่ากับว่ามูลค่าส่งออกตามใบขนสินค้าขาออกที่ใช้เป็นฐานในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต่ำกว่าราคาที่ตกลงซื้อขายกันจริง ทำให้รายได้ตามแบบภาษีมูลค่าเพิ่มจึงต่ำกว่ารายได้ในงบการเงินและ ภงด. 50
ผลต่างระหว่างราคาขายตามเงื่อนไข C.I.F. กับ ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มตามราคา F.O.B. ไม่ว่าจะเท่าไหร่ขอเธออย่าเป็นกังวล คุณสรรพ์ท่านเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องปกติทางการค้า หากมีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดเจน ผลต่างที่เกิดขึ้นก็ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แค่ทำตารางเปรียบเทียบทุก Order ว่าราคาขายเท่าไหร่ราคาที่ใช้เป็นฐานภาษีในการส่งออกเท่าไหร่ หากบวกลบกันแล้วลงตัวเป๊ะก็จะถูกปล่อยตัวกลับบ้านไม่ต้องตกเป็นจำเลยหรือถูกกันตัวไว้เป็นพยานแต่อย่างใด
|
|
|
รู้ก่อนลุย!!
มาตรา 79/1 ฐานภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการ ในกิจการเฉพาะอย่าง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ฐานภาษีสำหรับการขายสินค้าโดยการส่งออก ได้แก่มูลค่าของสินค้า ส่งออกโดยให้ใช้ราคา เอฟ.โอ.บี. ของสินค้าบวกด้วยภาษีสรรพสามิตตามที่กำหนด ในมาตรา 77/1 (19) และภาษีและค่าธรรมเนียมอื่น ตามที่จะได้กำหนดโดย พระราชกฤษฎีกา แต่ทั้งนี้ไม่ให้รวมอากรขาออก
ราคา เอฟ.โอ.บี. ได้แก่ราคาสินค้า ณ ด่านศุลกากรส่งออก โดยไม่รวมค่าประกันภัยและค่าขนส่งจากด่านศุลกากรส่งออกไปต่างประเทศ |
#ส่งออกสินค้า #C.I.F.#F.O.B. #ภาษีสรรพสามมิต #ค่าประกันภัย #ค่าขนส่ง #ภาษีมูลค่าเพิ่ม #ภาษีขาย #ภงด.50 |