ไม่ดูแต่ดี
เตะปี๊บยังดังและยังไปได้ไกลเลยไอ้หนู จะให้ป๊าทำอะไรทำได้หมดละ เป็นประโยคที่แสนดีจำได้ขึ้นใจในช่วงเวลาที่เข้าไปทาบทามป๊าและม๊าให้มาช่วยดูแลกิจการเพื่อหวังใช้ประสบการณ์ ความชำนาญมาช่วยให้แนวคิดไอเดียให้ธุรกิจก้าวหน้าได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ แม้โลกปัจจุบันนี้จะให้ความสำคัญกับ startup ค่อนข้างมากแต่ก็จะละเลยประสบการณ์ ความเก๋า วิสัยทัศน์ และมุมมองของผู้ดำรงตำแหน่งสูงวัยเหล่านี้ไม่ได้ ยิ่งได้ลับสมองประลองปัญญามากเท่าไหร่ท่าก็จะยิ่งแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
หลังจากตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งแสนดีสัมผัสได้ถึงความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าของทั้งป๊าและม๊าได้อย่างชัดเจน ทำให้รู้สึกได้ว่าตัดสินใจไม่ผิด แต่ยังไม่ทันได้ชื่นชมกับความเฉียบแหลมและความกล้าหาญในการตัดสินใจในครั้งนี้ลำเค็ญก็แทรกขึ้นมาว่า จะคิดอะไรทำอะไรก็ทำไปแต่ที่แน่ๆ ครั้งนี้แสนดีตัดสินใจผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะเมื่อให้ท่านทำงานก็ต้องให้เงินเดือน พอท่านมีเงินเดือนก็เท่ากับมีเงินได้เพียงพอต่อการยังชีพทำให้ผิดเงื่อนไขการหักค่าลดหย่อนบุตรกตัญญูไปซะแล้ว เพราะเงื่อนไขสำคัญในการหักค่าลดหย่อนคือ
เมื่อป๊าและม๊าได้รับเงินเดือนจากบริษัทฯ คนละ 30,000 บาทต่อเดือน คิดแบบไม่ต้องเก่งเลขคณิตแบบลำเค็ญก็พอว่ามันเกินแปลว่าหักค่าลดหย่อนอุปการะบิดามารดาไม่ได้ แล้วไอ้ที่ว่าจะให้บุตรคนอื่นใช้สิทธิแทนก็ไม่ได้ เพราะท่านมีรายได้เกินเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล แฮ่เป็นผู้มีฐานะดีตามความเห็นของคุณสรรพ์ไปแล้วจ้า หากแสนดีเสียภาษีอัตรา 30% เท่ากับว่าเสียสิทธิในการหักค่าลดหย่อนอุปการะบิดามารดารวม 60,000 บาท เท่ากับว่าต้องเสียภาษีสูงขึ้น 18,000 บาท จะว่าดีได้อย่างไรเนี่ย คิดผิดคิดใหม่ได้นะ 555 ลำเค็ญหัวเราะอย่างมีความสุข
ที่ลำเค็ญพูดมาก็ถูกนะ เรียกว่าเสียสิทธิในการกตัญญูเอ๊ยหักลดหย่อนลูกกตัญญูกันทั้งครอบครัวเลย แต่เมื่อป๊ามีรายได้จากบริษัทเท่ากับว่าบริษัทก็หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ด้วย แถมป๊าและม๊าอายุเกิน 60 ปีทั้งคู่ก็ยังมีสิทธิได้รับยกเว้นเงินได้อีกเพียบ ทำมาทำไปบวกลบคูณหารแล้วน่าจะประหยัดภาษีได้มากกว่าที่เสียไปนะ โอกาสหน้าจะมาคำนวณให้ดูน๊า
ด้วยรัก
แสนดี