สองเรา
มือจับมือใจคล้องใจ ไม่มีใครนำใครไม่มีใครตามใครสองเราเท่ากันผูกพันสายใย สองเราเข้าใจก้าวเดินไปพร้อมกันคงเป็นความรู้สึกของใครอีกหลายคนไม่ว่าจะเป็นในห้วงเวลาแห่งความสุขที่มือที่จับกุมซึ่งกันและกันจะส่งสัญญาณความรู้สึกที่อบอุ่น มีความสุข หรือจะเป็นห้วงเวลาแห่งความทุกข์ที่สองมือที่จับกุมกันจะเปลี่ยนแปรเป็นสัญญาณแห่งการให้กำลังใจ พร้อมจะเกาะเกี่ยวกับฝ่าฟันเพื่อให้พ้นปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้นให้ได้เพื่อที่จะได้ชื่นชมกับความสำเร็จที่จะเวียนมาบรรจบอีกครั้ง
หากเป็นช่วงอดีตที่ถือว่าผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เป็นผู้นำ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นระบบกงสี หรือระบบบริษัทล้วนให้ความสำคัญกับผู้ชาย กับลูกชายให้สืบทอดกิจการต่อ หนักกว่านั้นในบางประเทศหากคลอดลูกเป็นหญิงอาจจะเกิดปัญหาในครอบครัวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ในยุคปัจจุบันที่ผู้หญิงเริ่มมีบทบาททางธุรกิจ ทางครอบครัวมากยิ่งขึ้นทำให้ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งคุณสรรพ์เองยังให้สิทธิ์แก่เด็ก สตรี และคนชรา แหะๆ เห็นตอนขึ้นรถเมล์บ่อยๆ เลยติดมา คุณสรรพ์ให้สิทธิ์แก่สตรีที่มีรายได้เป็นของตัวเองสามารถแยกยื่นภาษีสำหรับรายได้ของตัวเองไม่ต้องไปง้อรอสามีนำไปรวมเพื่อยื่นแบบฯ เหมือนในอดีตอีกแล้ว
เรื่องแบบนี้หากเรานำประเด็นภาษีเข้ามาจับอาจจะทำให้เราเสียภาษีได้น้อยลงอย่างไม่น่าเชื่อ ยกตัวอย่างเช่นจากเดิมที่แสนดีมีรายได้ทั้ง Active Income และ Passive Income เรียกว่าให้เงินทำงานโดยได้รับ
เงินเดือน 1.0 ล้านบาทต่อปี
รายได้จากการให้เช่าอาคาร 1.0 ล้านบาทต่อปี
จากเดิมที่แสนดีรับภาระเป็นผู้มีเงินได้คนเดียว แต่เงินทั้งหมดจริงใจเก็บเข้ากระเป๋าไป หลังจากหักลดหย่อนแสนดีในฐานะผู้มีเงินได้, หักค่าลดหย่อนจริงใจในฐานะคู่สมรสไม่มีเงินได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องเสียภาษีเงินได้รวมทั้งสิ้น 260,000 บาท
แต่หากแสนดีเปลี่ยนแปลงให้รายได้จากการให้เช่าอาคารเป็นของจริงใจ จะทำให้ประหยัดภาษีได้มากเลย สาเหตุเป็นเพราะอะไรมาดูเป็นข้อๆ เลยจะได้จำนนต่อหลักฐาน
หากมีรายได้คนเดียว ฐานเงินได้รายได้จะสูง เงินได้ทุกประเภทจะรวมกัน และจะเริ่มคำนวณที่อัตรายกเว้น – 35% |
หากมีเงินได้ทั้งสองคน ต่างฝ่ายต่างหัก ฐานรายได้ของแสนดีจะลดลงมาก เงินได้ของแต่ละคน จะแยกคำนวณ และเริ่มต้นคำนวณที่อัตรายกเว้น – 35%
|
เอาแค่รายการเดียวก่อนคือลดหย่อนบุตร หากแสนดีมีรายได้คนเดียว ก็จะใช้สิทธิหักค่าลดหย่อนบุตรของผู้มีเงินได้ ได้ครั้งเดียวเพราะจริงใจไม่มีรายได้ แต่พอจริงใจมีรายได้ด้วยต่างฝ่ายก็กลายเป็นผู้มีเงินได้ก็ต่างใช้สิทธิลดหย่อนบุตรของตัวเอง แค่นี้ก็กลายเป็นว่าหักค่าลดหย่อนได้เพิ่มขึ้นแล้ว ส่วนสิทธิอื่นๆ ไว้จะมาเล่าให้ฟังแต่จะลองไปคำนวณเองก็ได้นะ ตอนนี้มาดูกันว่าภาษีเงินได้จากการกระจายรายได้ไปแล้วจะเหลือเท่าไหร่
แสนดีเสียภาษีจากเงินเดือนอย่างเดียว 97,000 บาท
จริงใจเสียภาษีจากค่าเช่าอย่างเดียว 53,0000 บาท
รวมภาษีที่สองคนต้องชำระ 150,000 บาท
เสียภาษีเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือความประหยัด จากเดิมเสียภาษี 260,000 บาท เท่ากับประหยัดไปเห็นๆ 110,000 บาทโดยไม่ต้องเหนื่อยแค่กระจายรายได้ออกไปแค่นั้นเอง จริงๆ แล้วภาครัฐก็พยายามส่งสารให้แล้วนะว่าเน้นกระจายรายได้ให้ทั่วถึงที่แท้มีความนัยแบบนี้เอง พอกระจายรายได้อย่างทั่วถึงเท่ากับรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณภาษีลดลง พอต่างคนต่างแยกคำนวณภาษีก็ต้องเริ่มคำนวณจากจุดเริ่มต้นเหมือนกัน สุดยอดจริงๆ เลย
ด้วยรัก
แสนดี